Mon -Sat 08:00-18:00

Tel : 062-336-9655

info@atcinsu.com

บริษัท เอ.ที.คอน อินซูเลชั่น จำกัด เรียกว่าสั้นๆ ว่า เอ.ที.โฟม หรือ เอ.ที.คอน คือบริษัทเดียวกัน ที่ขายโฟม EPS
เม็ดโฟม EPS หรือ Expanded Polystyrene อันเป็นวัสดุโพลีเมอร์สังเคราะห์ที่ผลิตจาก เม็ดพลาสติกโพลีสไตรีน ที่ผ่านกระบวนการขยายตัวด้วยไอน้ำอย่างพิถีพิถันนี้ ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมต่างๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นในด้าน น้ำหนักเบา อย่างเหลือเชื่อ พร้อมด้วยศักยภาพในการเป็น ฉนวนกันความร้อน และ ฉนวนกันเสียง ที่มีประสิทธิภาพสูง อันเป็นผลมาจากโครงสร้างเซลล์ปิดอันเป็นเอกลักษณ์ที่กักเก็บอากาศไว้ภายในจำนวนมหาศาล ทำให้สามารถลดการถ่ายเทอุณหภูมิได้อย่างยอดเยี่ยม

XPS FOAM

XPS Foam คืออะไร? (Extruded Polystyrene Foam)

XPS Foam หรือ Extruded Polystyrene Foam (โฟมโพลีสไตรีนอัดรีด) คือ ฉนวนกันความร้อน ชนิดหนึ่งที่ผลิตขึ้นจากโพลีสไตรีน (Polystyrene) โดยผ่านกระบวนการอัดขึ้นรูป (Extrusion) อย่างต่อเนื่อง ภายใต้แรงดันสูงและควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้โครงสร้างเซลล์แบบปิด (Closed-Cell Structure) ที่มีความสม่ำเสมอ ผิวเรียบทั้งสองด้าน และมีความหนาแน่นสูง
โครงสร้างเซลล์ปิด นี้เองที่เป็นคุณสมบัติเด่นของ XPS Foam ที่ทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการซึมผ่านของน้ำ ความชื้น และไอน้ำได้ดีเยี่ยม ส่งผลให้รักษาคุณสมบัติความเป็นฉนวนไว้ได้ยาวนานและทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ มากกว่าโฟมประเภทอื่น ๆ เช่น EPS Foam (Expanded Polystyrene Foam) ที่มีโครงสร้างเซลล์แบบเปิด

ภาพตัดขวางของแผ่น XPS Foam จาก เอ.ที.คอน อินซูเลชั่น จำกัด แสดงให้เห็นความหนาที่แตกต่างกัน เหมาะสมกับการใช้งานที่หลากหลาย เพื่อให้ได้ ค่า R-Value สูงสุดตามต้องการ

โฟมก้อนขนาด 60×120 cm

หนา 0.5 cm ถึง 63 cm

เกรดลามไฟ
เกรดไม่ลามไฟ
เคลื่อนย้ายง่าย
เหมาะในพื้นที่จำกัด

ข้อมูลเพิ่มเติม
แผ่น XPS โฟมขนาดใหญ่ กำลังถูกติดตั้งเป็นฉนวนกันความร้อนบนผนังอาคาร ชี้ให้เห็นถึงความง่ายในการตัดแต่งและติดตั้ง รวมถึงประสิทธิภาพการป้องกันความชื้นที่เหนือกว่า EPS โฟมในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง

โฟมก้อนขนาด 120×300 cm

หนา 0.5 cm ถึง 63 cm

เกรดลามไฟ
เกรดไม่ลามไฟ
เคลื่อนย้ายง่าย
ชิ้นใหญ่รอยต่อน้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม
แผ่น XPS Foam ของ เอ.ที.คอน อินซูเลชั่น จำกัด ถูกตัดเป็นรูปทรงต่างๆ เพื่อใช้งานเฉพาะทาง แสดงถึงความยืดหยุ่นในการใช้งาน

โฟมก้อนขนาด 120×600 cm

หนา 0.5 cm ถึง 63 cm

เกรดลามไฟ
เกรดไม่ลามไฟ
เคลื่อนย้ายรถหกล้อขึ้นไป
ชิ้นใหญ่รอยต่อน้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม

คุณสมบัติทางเทคนิคที่สำคัญของ XPS Foam (Key Technical Properties of XPS Foam)

นอกจากคุณสมบัติเด่นที่กล่าวมาแล้ว XPS Foam ยังมีค่าทางเทคนิคเฉพาะที่สำคัญต่อการเลือกใช้งาน:
ค่าการนำความร้อน (Thermal Conductivity, ค่า K หรือ λ): เป็นตัวบ่งชี้ความสามารถในการนำความร้อนของวัสดุ ยิ่งค่า K ต่ำเท่าไหร่ วัสดุยิ่งเป็นฉนวนที่ดีเท่านั้น XPS Foam มีค่า K ต่ำมาก โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 0.028 – 0.035 W/(m·K) ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม ทำให้เป็น ฉนวนกันความร้อนประสิทธิภาพสูง
ค่าต้านทานความร้อน (Thermal Resistance, ค่า R-value): เป็นค่ากลับกันของค่าการนำความร้อน ยิ่งค่า R-value สูงเท่าไหร่ วัสดุยิ่งเป็นฉนวนที่ดีเท่านั้น ค่า R-value ของ XPS Foam จะแปรผันตามความหนา โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 1.1 – 1.5 (m².K)/W ต่อความหนา 25 มม.
ค่าการดูดซึมน้ำ (Water Absorption): เป็นเปอร์เซ็นต์ของน้ำที่วัสดุดูดซับเมื่อจมน้ำ XPS Foam มีค่าการดูดซึมน้ำต่ำมาก โดยปกติจะ น้อยกว่า 0.7% โดยปริมาตร หรือ น้อยกว่า 0.3% โดยน้ำหนัก ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้เหมาะสำหรับงานที่สัมผัสความชื้น
ความแข็งแรงรับแรงกด (Compressive Strength): เป็นความสามารถในการรับน้ำหนักหรือแรงกดทับโดยไม่เสียรูป XPS Foam มีความแข็งแรงรับแรงกดสูง ตั้งแต่ 200 kPa (20 ตัน/ตร.ม.) ไปจนถึง 700 kPa (70 ตัน/ตร.ม.) หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นและวัตถุประสงค์การใช้งาน ทำให้เหมาะสำหรับงานพื้นหรือหลังคาที่ต้องรับน้ำหนักมาก
ค่าความหนาแน่น (Density): โดยทั่วไป XPS Foam มีความหนาแน่นอยู่ในช่วง 28 – 45 kg/m³ หรือสูงกว่าสำหรับงานเฉพาะทาง ความหนาแน่นที่สูงขึ้นมักจะสัมพันธ์กับความแข็งแรงรับแรงกดที่สูงขึ้น
ช่วงอุณหภูมิใช้งาน (Service Temperature Range): สามารถทนต่ออุณหภูมิตั้งแต่ประมาณ -50°C ถึง 75°C ทำให้ใช้งานได้ดีในหลากหลายสภาพภูมิอากาศ
การทนไฟ (Fire Resistance): XPS Foam เป็นวัสดุที่ ติดไฟได้ หากไม่ได้รับการป้องกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะเติม สารหน่วงการติดไฟ (Fire Retardants) ลงไปในกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้มาตรฐานการทนไฟตามที่กำหนดสำหรับงานก่อสร้างในประเทศต่างๆ (เช่น Class E, Class B1, Class B2 ตามมาตรฐานยุโรป)

การใช้งาน XPS Foam (Applications of XPS Foam

นอกจากการใช้งานหลักในงานก่อสร้างและห้องเย็นแล้ว XPS Foam ยังถูกนำไปประยุกต์ใช้ในงานเฉพาะทางที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษของมัน:

1. งานก่อสร้างและอาคาร (Building and Construction) – เจาะลึกแต่ละส่วน

หลังคา (Roofing):
หลังคาแบบกลับด้าน (Inverted Roof System): XPS Foam เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับหลังคาแบบกลับด้าน โดยจะวาง เหนือแผ่นกันซึม (Waterproofing Membrane) และอยู่ใต้ชั้นกรวดหรือวัสดุปกป้องอื่นๆ ซึ่งช่วย ปกป้องแผ่นกันซึม จากการเสื่อมสภาพจากรังสี UV และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่รุนแรง ทำให้ ยืดอายุการใช้งาน ของระบบหลังคากันซึมได้อย่างมีนัยสำคัญ
หลังคาเขียว (Green Roof / Eco Roof): ใช้เป็นชั้นฉนวนใต้ชั้นดินและพืชพรรณ ช่วยควบคุมอุณหภูมิของอาคารและระบายน้ำส่วนเกิน
หลังคาคอนกรีตสำเร็จรูป: ใช้เป็นฉนวนในโครงสร้างหลังคาคอนกรีตสำเร็จรูป
ผนัง (Walls):
ผนังสองชั้น (Cavity Wall Insulation): ติดตั้งในช่องว่างระหว่างผนังสองชั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเป็นฉนวน
ผนังห้องใต้ดิน (Basement Wall Insulation): ใช้เป็นฉนวนภายนอกหรือภายในผนังห้องใต้ดิน เพื่อป้องกันความชื้นและควบคุมอุณหภูมิ ลดปัญหา การควบแน่น (Condensation)
ระบบ EIFS (Exterior Insulation Finishing System): XPS Foam เป็นส่วนประกอบหลักของระบบ EIFS ซึ่งเป็นการหุ้มฉนวนภายนอกอาคารก่อนการตกแต่งผิว ทำให้ได้ผนังที่มีประสิทธิภาพฉนวนสูงและมีความสวยงาม
พื้น (Floors):
พื้นปรับระดับ (Underfloor Heating Insulation): ใช้เป็นฉนวนรองใต้ระบบทำความร้อนใต้พื้น เพื่อให้ความร้อนสะสมอยู่ด้านบนและกระจายขึ้นสู่พื้นที่อยู่อาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ
พื้นโรงงานอุตสาหกรรม: ใช้เป็นฉนวนรองรับพื้นโรงงานที่ต้องรับน้ำหนักมาก และอาจสัมผัสกับความชื้น
พื้นสนามกีฬาในร่ม: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมอุณหภูมิภายในอาคาร

2. อุตสาหกรรมห้องเย็นและอุณหภูมิต่ำ (Cold Chain and Low-Temperature Applications)

ผนังและพื้นห้องเย็น (Cold Room Walls and Floors): เป็นวัสดุหลักสำหรับ แผ่นฉนวนสำเร็จรูป (Sandwich Panels) ที่ใช้ในห้องเย็นและห้องแช่แข็งทุกขนาด รวมถึง ห้องคลีนรูม (Clean Room) ที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอย่างเข้มงวด
ตู้แช่ขนาดใหญ่และห้องเก็บสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Large Refrigerated Warehouses): ใช้เป็นฉนวนหลักในคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่ต้องการรักษาอุณหภูมิให้คงที่ตลอดเวลา เพื่อลดการใช้พลังงานมหาศาล

3. งานโยธาและโครงสร้างพื้นฐาน (Civil Engineering and Infrastructure)

การรองรับถนนและทางรถไฟ (Road and Railway Embankment Insulation): ใช้เป็นชั้นฉนวนเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของดินใต้ถนนหรือทางรถไฟในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันมาก เช่น ในเขตหนาว เพื่อป้องกันการเกิด การแข็งตัวและละลายของดิน (Frost Heave) ซึ่งทำให้พื้นผิวโครงสร้างเสียหาย
ฉนวนใต้บ่อน้ำและสระว่ายน้ำ (Pond and Swimming Pool Insulation): ช่วยลดการสูญเสียความร้อนจากน้ำลงสู่พื้นดิน ทำให้ประหยัดพลังงานในการทำความร้อนน้ำ
การก่อสร้างสะพาน (Bridge Construction): ใช้เป็นฉนวนเพื่อควบคุมอุณหภูมิของโครงสร้างสะพาน ลดการขยายตัวและหดตัวเนื่องจากอุณหภูมิ
สนามบิน (Airport Runways): ใช้เป็นฉนวนรองรันเวย์ในพื้นที่หนาวจัดเพื่อป้องกันปัญหาจากน้ำแข็งใต้ดิน

4. อุตสาหกรรมยานยนต์และขนส่ง (Automotive and Transportation)

รถบรรทุกห้องเย็นและรถห้องเย็นเคลื่อนที่ (Refrigerated Trucks and Mobile Cold Stores): ใช้เป็นแกนกลางของโครงสร้างผนังและพื้นรถห้องเย็น เพื่อรักษาอุณหภูมิของสินค้าที่ขนส่ง
เรือขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Refrigerated Ships): ใช้เป็นฉนวนในโครงสร้างของเรือขนส่งสินค้าแช่แข็ง

5. งานบรรจุภัณฑ์และหัตถกรรม (Packaging and Craft Applications)

บรรจุภัณฑ์กันกระแทกสำหรับสินค้าบอบบาง (Fragile Item Packaging): เนื่องจากคุณสมบัติที่น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง สามารถตัดขึ้นรูปได้ง่าย จึงนิยมนำมาใช้ทำเป็นบล็อกรองรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์, แก้ว, หรือเครื่องมือแพทย์
งานฝีมือและโมเดล (Arts, Crafts, and Model Making): XPS Foam ตัดแต่งได้ง่ายและมีผิวเรียบ จึงเหมาะสำหรับใช้สร้างโมเดลจำลอง, พร็อพประกอบฉาก, หรือประติมากรรม

ข้อดีและข้อควรพิจารณาของ XPS Foam (Advantages and Considerations of XPS Foam)

ข้อดี (Advantages) – เน้นจุดแข็งเชิงเปรียบเทียบ

ประสิทธิภาพฉนวนความร้อนที่ยอดเยี่ยมและคงที่ (Stable Thermal Performance): เนื่องจากโครงสร้างเซลล์ปิด ทำให้ก๊าซภายในเซลล์ (ซึ่งเป็นฉนวนหลัก) ถูกกักเก็บไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ถูกแทนที่ด้วยอากาศหรือความชื้น ทำให้ ค่า R-value คงที่ ตลอดอายุการใช้งาน ไม่ลดลงเหมือนฉนวนบางประเภทที่ประสิทธิภาพจะลดลงเมื่อสัมผัสความชื้น
ทนทานต่อความชื้นและน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ (Virtually Impervious to Water and Moisture): เป็นหนึ่งในไม่กี่วัสดุฉนวนที่สามารถสัมผัสกับน้ำได้โดยตรงโดยไม่สูญเสียคุณสมบัติการเป็นฉนวน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ งานใต้ดิน งานหลังคาแบบกลับด้าน และ งานห้องเย็น
ความแข็งแรงรับแรงกดสูงและคงทน (High and Consistent Compressive Strength): สามารถรับน้ำหนักได้มากโดยไม่ยุบตัว ทำให้เหมาะสำหรับ พื้นโรงงาน พื้นห้องเย็น หลังคาดาดฟ้าที่ใช้งาน และงานที่ต้องการโครงสร้างรองรับน้ำหนัก
ทนทานต่อการเน่าเปื่อยและเชื้อรา (Resistant to Rot and Fungal Growth): เนื่องจากเป็นวัสดุอนินทรีย์ จึงไม่เป็นแหล่งอาหารสำหรับแบคทีเรีย เชื้อรา หรือแมลง ทำให้เหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการความสะอาดและสุขอนามัย
น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย (Lightweight and Easy to Install): ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง รวมถึงลดภาระโครงสร้างอาคาร
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendliness – Modern XPS): XPS Foam ในปัจจุบันหลายยี่ห้อผลิตโดยใช้สารที่ทำให้เกิดฟองที่ไม่ทำลายชั้นโอโซน และสามารถนำไป รีไซเคิล (Recyclable) ได้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของ วัสดุก่อสร้างยั่งยืน (Sustainable Building Materials)

ข้อควรพิจารณา (Considerations) – เน้นข้อจำกัดและการจัดการ

ราคาสูงกว่าฉนวนบางชนิด (Higher Initial Cost): แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพสูง แต่ราคาต่อตารางเมตรอาจสูงกว่า EPS Foam หรือใยแก้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึง อายุการใช้งานที่ยาวนาน ประสิทธิภาพที่คงที่ และ การประหยัดพลังงานในระยะยาว ทำให้ XPS Foam มักจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ความไวต่อรังสี UV (UV Sensitivity): เช่นเดียวกับพลาสติกอื่นๆ XPS Foam อาจเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) โดยตรงเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงควร มีการป้องกันด้วยวัสดุอื่น เช่น ปูนฉาบ, แผ่นกันซึม, หรือวัสดุปิดผิวอื่นๆ หากใช้งานภายนอกอาคาร
ความเข้ากันได้กับสารเคมีบางชนิด (Chemical Compatibility): อาจเกิดการละลายหรือเสียหายได้หากสัมผัสกับสารละลายอินทรีย์บางชนิด เช่น ทินเนอร์, เบนซิน, หรือน้ำมันบางประเภท จึงควรตรวจสอบข้อมูลจากผู้ผลิตก่อนการใช้งาน
การจัดการอัคคีภัย (Fire Safety): แม้จะมีการเติมสารหน่วงการติดไฟ แต่ XPS Foam ยังคงเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ จึงต้องติดตั้งตาม ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยทางอัคคีภัย ของแต่ละพื้นที่ และมักจะต้องถูกหุ้มด้วยวัสดุทนไฟเพื่อความปลอดภัย

ข้อดีและข้อควรพิจารณาของ XPS Foam (Advantages and Considerations of XPS Foam)

ข้อดี (Advantages)

1. ประสิทธิภาพฉนวนสูง: มีค่า R-value ที่ดีเยี่ยม ทำให้ประหยัดพลังงานได้มาก
2. กันน้ำและความชื้นได้ดีที่สุด: ด้วยโครงสร้างเซลล์ปิด ทำให้ไม่ดูดซับน้ำและคงประสิทธิภาพได้แม้ในสภาวะชื้น
3. แข็งแรง ทนทาน: ทนทานต่อแรงกดได้สูง ไม่ยุบตัวง่าย มีอายุการใช้งานยาวนาน
4. คงรูปได้ดี: ไม่เสียรูปทรงเมื่อเวลาผ่านไป หรือเมื่อสัมผัสกับความชื้น
5. ติดตั้งง่าย: มีน้ำหนักเบาและสามารถตัดหรือขึ้นรูปได้สะดวก ทำให้ประหยัดเวลาและค่าแรงในการติดตั้ง
6. ลดปัญหาการเกิดสะพานความร้อน (Thermal Bridging): การติดตั้งอย่างต่อเนื่องช่วยลดจุดอ่อนในการถ่ายเทความร้อน
7. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (บางชนิด): ผลิตภัณฑ์บางยี่ห้อไม่มีสารที่ทำลายชั้นโอโซน และสามารถรีไซเคิลได้

ข้อควรพิจารณา (Considerations)

1. ราคาสูงกว่า EPS Foam: โดยทั่วไปแล้ว XPS Foam จะมีราคาสูงกว่า EPS Foam
2. ความทนทานต่อสารเคมีบางชนิดต่ำ: อาจเสียหายได้หากสัมผัสกับสารเคมีบางประเภท เช่น สารละลายอินทรีย์บางชนิด
3. ติดไฟได้ (Combustible): เช่นเดียวกับวัสดุฉนวนส่วนใหญ่ XPS Foam เป็นวัสดุที่ติดไฟได้ จึงต้องติดตั้งตามมาตรฐานความปลอดภัยทางอัคคีภัยที่กำหนด และอาจต้องใช้ร่วมกับสารหน่วงการติดไฟ (Fire Retardants)

แผ่น XPS โฟมขนาดใหญ่ กำลังถูกติดตั้งเป็นฉนวนกันความร้อนบนผนังอาคาร ชี้ให้เห็นถึงความง่ายในการตัดแต่งและติดตั้ง รวมถึงประสิทธิภาพการป้องกันความชื้นที่เหนือกว่า EPS โฟมในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง

กระบวนการผลิต XPS Foam (XPS Manufacturing Process)

กระบวนการผลิต XPS Foam เริ่มจากการหลอมเม็ดพลาสติกโพลีสไตรีน (Polystyrene beads) พร้อมกับสารเติมแต่ง (Additives) และสารที่ทำให้เกิดฟอง (Blowing Agent) ผสมกันในเครื่องอัดรีด (Extruder) ภายใต้อุณหภูมิและความดันสูง จากนั้นส่วนผสมจะถูกรีดผ่านหัวฉีด (Die) ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เมื่อวัสดุออกจากหัวฉีดและสัมผัสกับอากาศภายนอก สารที่ทำให้เกิดฟองจะขยายตัว ทำให้เกิดโครงสร้างเซลล์แบบปิดที่ละเอียดและต่อเนื่อง
ความสำคัญของสารที่ทำให้เกิดฟอง (Blowing Agent): ในอดีตมีการใช้สาร CFCs (Chlorofluorocarbons) และ HCFCs (Hydrochlorofluorocarbons) ซึ่งทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน แต่ในปัจจุบันผู้ผลิตชั้นนำส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนมาใช้สารที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากขึ้น เช่น HFCs (Hydrofluorocarbons) หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อชั้นโอโซน ทำให้ XPS Foam รุ่นใหม่ๆ เป็น ผลิตภัณฑ์สีเขียว (Green Product) ที่ยั่งยืน

ภาพกลุ่มสถาปนิกและผู้รับเหมากำลังหารือเกี่ยวกับข้อดีของ XPS Foam ของ เอ.ที.คอน อินซูเลชั่น จำกัด ในการออกแบบอาคารที่ยั่งยื

EPS Foam Block

ข้อควรพิจารณา (Considerations) – เน้นข้อจำกัดและการจัดการ

ราคาสูงกว่าฉนวนบางชนิด (Higher Initial Cost): แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพสูง แต่ราคาต่อตารางเมตรอาจสูงกว่า EPS Foam หรือใยแก้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึง อายุการใช้งานที่ยาวนาน ประสิทธิภาพที่คงที่ และ การประหยัดพลังงานในระยะยาว ทำให้ XPS Foam มักจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ความไวต่อรังสี UV (UV Sensitivity): เช่นเดียวกับพลาสติกอื่นๆ XPS Foam อาจเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) โดยตรงเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงควร มีการป้องกันด้วยวัสดุอื่น เช่น ปูนฉาบ, แผ่นกันซึม, หรือวัสดุปิดผิวอื่นๆ หากใช้งานภายนอกอาคาร
ความเข้ากันได้กับสารเคมีบางชนิด (Chemical Compatibility): อาจเกิดการละลายหรือเสียหายได้หากสัมผัสกับสารละลายอินทรีย์บางชนิด เช่น ทินเนอร์, เบนซิน, หรือน้ำมันบางประเภท จึงควรตรวจสอบข้อมูลจากผู้ผลิตก่อนการใช้งาน
การจัดการอัคคีภัย (Fire Safety): แม้จะมีการเติมสารหน่วงการติดไฟ แต่ XPS Foam ยังคงเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ จึงต้องติดตั้งตาม ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยทางอัคคีภัย ของแต่ละพื้นที่ และมักจะต้องถูกหุ้มด้วยวัสดุทนไฟเพื่อความปลอดภัย

มาตรฐานและใบรับรอง (Standards and Certifications)

ในการเลือกใช้ XPS Foam ควรพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล เช่น:
ASTM (American Society for Testing and Materials): มาตรฐานสากลของสหรัฐอเมริกา
EN (European Norms): มาตรฐานของยุโรป เช่น EN 13164 (Thermal insulation products for buildings – Factory made products of extruded polystyrene foam (XPS) – Specification)
ISO (International Organization for Standardization): มาตรฐานสากลทั่วไป
ใบรับรองผลิตภัณฑ์สีเขียว (Green Certifications): เช่น LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) หรือ Green Label เพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

คำแนะนำในการเลือกซื้อและติดตั้ง XPS Foam (Tips for Purchasing and Installing XPS Foam)

ระบุความหนาและขนาดที่เหมาะสม: พิจารณาจากค่า R-value ที่ต้องการและพื้นที่การใช้งาน
ตรวจสอบความแข็งแรงรับแรงกด: เลือกให้เหมาะสมกับน้ำหนักที่คาดว่าจะได้รับ (เช่น สำหรับพื้นห้องเย็น)
เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ: มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองมาตรฐาน
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านฉนวน
ปฏิบัติตามคู่มือการติดตั้ง: การติดตั้งที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญต่อประสิทธิภาพสูงสุดของฉนวน
พิจารณาสารหน่วงการติดไฟ: สำหรับงานก่อสร้าง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารหน่วงการติดไฟและได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย

สรุปคุณสมบัติเด่นของ XPS Foam

เอทีโฟม เหนือกว่าทุกความคาดหมาย ด้วยคุณสมบัติเด่นรอบด้าน เอทีโฟมภูมิใจนำเสนอ XPS Foam วัสดุคุณภาพสูงที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติหลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างกว้างขวางในหลากหลายอุตสาหกรรม XPS Foam ของเราไม่เป็นเพียงแค่วัสดุ แต่เป็นนวัตกรรมที่พร้อมยกระดับทุกโครงการของคุณให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

ฉนวนกันความร้อนสูง (High Thermal Efficiency)

: มีค่าการนำความร้อน (Thermal Conductivity หรือ ค่า K) ต่ำมาก หรือมีค่า R-value (ค่าต้านทานความร้อน) สูง ทำให้สามารถลดการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศ

กันน้ำ กันความชื้นดีเยี่ยม (Excellent Water and Moisture Resistance)

: ด้วยโครงสร้างเซลล์ปิด ทำให้ XPS Foam ดูดซึมน้ำได้ต่ำมาก (น้อยกว่า 0.7% เมื่อจมน้ำ) เหมาะสำหรับงานที่ต้องสัมผัสกับความชื้นหรือน้ำโดยตรง

แข็งแรง ทนทาน รับแรงกดได้ดี (High Compressive Strength and Durability)

: มีความหนาแน่นสูงและโครงสร้างแข็งแรง ทำให้สามารถรับน้ำหนักและแรงกดทับได้มาก ไม่เสียรูปง่าย มีอายุการใช้งานยาวนาน

น้ำหนักเบา (Lightweight)

: แม้จะแข็งแรง แต่มีน้ำหนักเบา ทำให้สะดวกในการขนส่งและติดตั้ง ลดภาระโครงสร้าง

ทนทานต่อสภาพภูมิอากาศ (Weather Resistance)

: สามารถทนต่ออุณหภูมิตั้งแต่ -50°C ถึง 75°C

ไม่เป็นแหล่งอาหารของเชื้อราและแมลง (Mold and Insect Resistance)

: วัสดุไม่เป็นอินทรีย์ ทำให้ไม่เป็นที่อยู่หรือแหล่งอาหารของเชื้อรา แมลง หรือสัตว์รบกวน

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmentally Friendly)

: ผลิตภัณฑ์บางชนิดไม่มีสาร CFC, HCFC, และ HFC ซึ่งเป็นสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน และสามารถนำไปรีไซเคิลได้

XPS Foam ลดร้อน ลดค่าไฟ บ้านเย็นสบายได้ง่ายๆ

ภาพตัดขวางของแผ่น XPS Foam จาก เอ.ที.คอน อินซูเลชั่น จำกัด แสดงให้เห็นความหนาที่แตกต่างกัน เหมาะสมกับการใช้งานที่หลากหลาย เพื่อให้ได้ ค่า R-Value สูงสุดตามต้องการ

การใช้งาน XPS Foam (Applications of XPS Foam)

XPS Foam เป็นวัสดุอเนกประสงค์ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่ต้องการ ฉนวนกันความร้อนคุณภาพสูง และคุณสมบัติในการ กันน้ำ กันความชื้น ได้ดีเยี่ยม

งานก่อสร้างและอาคาร (Building and Construction Insulation)

เป็นงานหลักที่ XPS Foam ถูกนำมาใช้มากที่สุด เนื่องจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของอาคารและสร้างความสบายภายใน
ฉนวนหลังคา (Roof Insulation):
หลังคาแบน (Flat Roof): นิยมใช้เป็น ฉนวนใต้วัสดุกันซึม หรือ หลังคาแบบกลับด้าน (Inverted Roof) โดยวาง XPS Foam ไว้เหนือแผ่นกันซึม เพื่อปกป้องแผ่นกันซึมจากรังสี UV และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่รุนแรง ช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบกันซึม
หลังคาลาดชัน (Pitched Roof): ใช้เป็น ฉนวนใต้แผ่นกระเบื้อง หรือ ฉนวนในโครงสร้างหลังคา เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดดเข้าสู่ตัวอาคาร
ฉนวนผนัง (Wall Insulation):
ผนังภายนอก (Exterior Wall Insulation): ติดตั้งบนผนังด้านนอกอาคารก่อนการตกแต่งผิว เพื่อสร้างชั้นฉนวนที่ต่อเนื่อง ช่วยลดการถ่ายเทความร้อนผ่านผนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผนังภายใน (Interior Wall Insulation): ใช้เป็นฉนวนภายในผนัง เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในห้อง หรือใช้ในงาน ผนังห้องเย็น และ ผนังห้องควบคุมอุณหภูมิ
ฉนวนพื้นและฐานราก (Floor and Foundation Insulation):
ฉนวนใต้พื้นคอนกรีต (Under-Slab Insulation): วาง XPS Foam ใต้พื้นคอนกรีตเพื่อป้องกันความร้อนและความชื้นจากพื้นดินเข้าสู่ตัวอาคาร เหมาะสำหรับพื้นชั้นล่างและชั้นใต้ดิน
ฉนวนห้องใต้ดิน (Basement Insulation): ใช้เป็นฉนวนสำหรับผนังและพื้นห้องใต้ดิน เพื่อควบคุมอุณหภูมิและป้องกันความชื้น
งานพื้นห้องเย็นและห้องแช่แข็ง (Cold Room and Freezer Floor Insulation): เนื่องจาก XPS Foam มีความแข็งแรงในการรับแรงกดสูงและกันน้ำได้ดี จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็น ฉนวนพื้นห้องเย็น ที่ต้องรองรับน้ำหนักมากและมีการสัมผัสกับความชื้นตลอดเวลา

อุตสาหกรรมห้องเย็นและตู้แช่ (Cold Storage and Refrigeration Industry)

ผนังห้องเย็นและห้องแช่แข็ง (Cold Room and Freezer Wall Panels): ใช้เป็นแกนกลางของแผ่นฉนวนสำเร็จรูป (Insulated Panels หรือ Sandwich Panels) สำหรับสร้างผนังและเพดานห้องเย็น เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็น ฉนวนกันความร้อนที่ดีเยี่ยม และ ป้องกันความชื้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในห้องให้คงที่และลดการใช้พลังงาน
ประตูห้องเย็น (Cold Room Doors): ใช้เป็นไส้ในของประตูห้องเย็น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเป็นฉนวน
ตู้แช่สินค้า (Refrigerated Cabinets): ใช้เป็นฉนวนสำหรับตู้แช่สินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ หรือตู้แช่ขนาดเล็ก
ยานพาหนะขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Refrigerated Transport Vehicles): ใช้เป็นฉนวนสำหรับรถบรรทุกห้องเย็น หรือตู้คอนเทนเนอร์สำหรับขนส่งสินค้าที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ

งานอุตสาหกรรมและงานเฉพาะทาง (Industrial and Specialised Applications)

งานฉนวนท่อ (Pipe Insulation): ใช้เป็นฉนวนหุ้มท่อส่งน้ำเย็น หรือท่อสารเคมีที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ
งานบ่อบำบัดน้ำเสีย (Wastewater Treatment Ponds): ใช้เป็นฉนวนรองบ่อน้ำเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่อาจส่งผลต่อกระบวนการบำบัด
งานตกแต่งและประติมากรรม (Decorative and Artistic Applications): เนื่องจาก XPS Foam สามารถตัด เจาะ หรือขึ้นรูปได้ง่าย จึงนิยมนำมาใช้ในงานตกแต่ง งานประดิษฐ์ โมเดล หรือฉากประกอบละคร
งานรองรับแรงกระแทก (Cushioning and Packaging): ใช้เป็นวัสดุกันกระแทก หรือวัสดุรองรับน้ำหนักในงานบรรจุภัณฑ์บางประเภท

บทความ

ขอรายละเอียดเพิ่มเติม

ขอใบเสนอราคา

สายด่วนงานโฟม โทร. 062-336-9655, 062-585-4499, 082-440-2525