Mon -Sat 08:00-18:00

Tel : 062-336-9655

info@atcinsu.com

บริษัท เอ.ที.คอน อินซูเลชั่น จำกัด เรียกว่าสั้นๆ ว่า เอ.ที.โฟม หรือ เอ.ที.คอน คือบริษัทเดียวกัน ที่ขายโฟม EPS

คุณสมบัติ – ประโยชน์

คุณสมบัติและประโยชน์ของโฟม EPS

     โฟม EPS ไม่ได้เป็นเพียงวัสดุบรรจุภัณฑ์ทั่วไป แต่เป็น “วิศวกรรมอากาศ” (Engineered Air) ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว ทำให้เป็นวัสดุอเนกประสงค์ที่มีประโยชน์มหาศาลในหลากหลายอุตสาหกรรม

คุณสมบัติเด่นของโฟม EPS

คุณสมบัติเหล่านี้เป็นหัวใจหลักที่ทำให้โฟม EPS เป็นที่นิยม:
1.1. เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดีเยี่ยม (Excellent Thermal Insulation):
โครงสร้าง: โฟม EPS ประกอบด้วยเซลล์ปิด (Closed-cell structure) ที่มีอากาศกักเก็บอยู่ภายในมากถึง 98% ของปริมาตรทั้งหมด
หลักการทำงาน: อากาศที่ถูกกักเก็บไว้นี้เป็นตัวนำความร้อนที่แย่มาก ทำให้การถ่ายเทความร้อนผ่านการพาความร้อน (Convection) และการนำความร้อน (Conduction) เกิดขึ้นได้ยากมาก
ค่าทางเทคนิค: ค่าการนำความร้อน (Thermal Conductivity, λ หรือ k-Value): ต่ำมาก โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 0.032−0.045 W/(m⋅K)
ค่าความต้านทานความร้อน (R-Value): สูง โดยเฉลี่ยประมาณ 3.6−4.2 R-value per inch (ยิ่ง R-Value สูงยิ่งเป็นฉนวนที่ดี)
ประโยชน์: ประหยัดพลังงาน: ช่วยลดภาระการทำงานของระบบปรับอากาศ (ทั้งทำความร้อนและทำความเย็น) ในอาคาร ทำให้ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล (ลดค่าไฟฟ้าได้ 20-40% หรือมากกว่า)
รักษาอุณหภูมิ: เหมาะสำหรับการสร้างห้องเย็น, ห้องควบคุมอุณหภูมิ, หรือกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการรักษาอุณหภูมิสินค้าให้คงที่ (เช่น อาหารสด, ยา)
เพิ่มความสบาย: ช่วยให้สภาพแวดล้อมภายในอาคารมีความสบายมากขึ้น ไม่ร้อนจัดหรือเย็นจัดเกินไป
1.2. น้ำหนักเบามาก (Extremely Lightweight):
โครงสร้าง: เนื้อโฟมส่วนใหญ่เป็นอากาศ (98%) มีเนื้อพลาสติกเพียง 2%
ค่าทางเทคนิค: ความหนาแน่นต่ำ โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 10−48 kg/m3 (0.6−3.0 lb/ft3)
ประโยชน์: ลดภาระโครงสร้าง: ลดน้ำหนักรวมของอาคาร ทำให้สามารถลดขนาดโครงสร้างหลัก (เสา, คาน, ฐานราก) ประหยัดค่าวัสดุก่อสร้างได้
สะดวกในการขนส่ง: น้ำหนักเบาช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการขนย้ายและจัดส่งวัสดุไปยังหน้างาน
ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว: ช่างสามารถยกและติดตั้งได้ง่ายโดยใช้แรงงานน้อย ทำให้ประหยัดเวลาและค่าแรงในการก่อสร้าง
1.3. แข็งแรงและทนทาน (Strong and Durable):
คุณสมบัติ: แม้จะมีน้ำหนักเบา แต่โฟม EPS มีความสามารถในการรับแรงกดอัด (Compressive Strength) ที่ดีเยี่ยม โดยคุณสมบัตินี้จะเพิ่มขึ้นตามความหนาแน่นของโฟม
ค่าทางเทคนิค: ค่า Compressive Strength สามารถทำได้ตั้งแต่ 70 kPa (10 psi) ไปจนถึง 690 kPa (100 psi) หรือสูงกว่าสำหรับโฟมความหนาแน่นสูงพิเศษ
ประโยชน์: รองรับน้ำหนักได้ดี: เหมาะสำหรับใช้เป็นวัสดุรองรับน้ำหนักในงานปรับระดับพื้น, ใต้ถนน, หรือแม้แต่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างรับน้ำหนักเบา
อายุการใช้งานยาวนาน: ไม่ผุพัง, ไม่เน่าเปื่อย, ไม่เป็นอาหารของปลวกหรือแมลง, ไม่เกิดเชื้อรา ทำให้มีอายุการใช้งานเทียบเท่ากับอายุของอาคารที่ติดตั้ง
ความคงตัวของขนาด (Dimensional Stability): ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงหรือขนาดอย่างมีนัยสำคัญเมื่ออุณหภูมิหรือความชื้นเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ไม่เกิดการแตกร้าวหรือบิดเบี้ยวของโครงสร้างที่ติดตั้งร่วมกัน
1.4. ทนทานต่อแรงกระแทกและดูดซับแรงสั่นสะเทือน (Shock Absorption / Impact Resistance):
โครงสร้าง: โครงสร้างเซลล์ที่มีช่องอากาศจำนวนมากช่วยให้โฟม EPS สามารถยุบตัวและดูดซับพลังงานจากการกระแทกได้ดีเยี่ยม ก่อนที่จะคืนตัวกลับรูปทรงเดิม
ประโยชน์: ป้องกันสินค้าเสียหาย: เป็นวัสดุยอดนิยมสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการป้องกันสินค้าที่บอบบางและเสียหายง่าย (เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, แก้ว, ผลไม้)
ลดการสั่นสะเทือน: ใช้ในงานก่อสร้างเพื่อลดการส่งผ่านแรงสั่นสะเทือน เช่น ในโครงสร้างถนนหรือคอสะพาน
1.5. ไม่ดูดซึมน้ำ (Low Water Absorption):
โครงสร้าง: โฟม EPS มีโครงสร้างแบบเซลล์ปิดที่แน่นหนา ทำให้โมเลกุลน้ำไม่สามารถซึมผ่านเข้าไปในเนื้อโฟมได้ง่าย
ค่าทางเทคนิค: อัตราการดูดซึมน้ำต่ำมาก (โดยทั่วไปน้อยกว่า 2-4% โดยปริมาตรเมื่อจุ่มน้ำเป็นเวลานาน)
ประโยชน์: คงคุณสมบัติฉนวน: แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชื้นหรือสัมผัสกับน้ำ ก็ยังคงคุณสมบัติการเป็นฉนวนที่ดีไว้ได้ ไม่เสื่อมประสิทธิภาพ
ป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำ: ไม่เป็นแหล่งสะสมของความชื้น ทำให้ไม่เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อรา, ราดำ, หรือตะไคร่น้ำ ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพและทำลายความสวยงามของอาคาร
เหมาะสำหรับห้องเย็น: เป็นวัสดุที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผนังและพื้นห้องเย็นที่ต้องสัมผัสกับความชื้นและอุณหภูมิต่ำ
1.6. ปลอดภัยและไม่ลามไฟ (Self-extinguishing / Flame Retardant Grade – F-Grade):
คุณสมบัติ: โฟม EPS ที่ใช้ในงานก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นเกรด F (Flame Retardant Grade) ซึ่งมีการเติมสารหน่วงไฟ (Flame Retardant Additives) เข้าไปในระหว่างการผลิต
การทดสอบ: เมื่อได้รับเปลวไฟโดยตรงจะติดไฟได้ แต่เมื่อนำแหล่งกำเนิดไฟออก ไฟจะดับเองภายใน 10 วินาที (ตามมาตรฐานการทดสอบ) ไม่เกิดการลามไฟไปสู่ส่วนอื่น
ประโยชน์: เพิ่มความปลอดภัยจากอัคคีภัย: ลดความเสี่ยงในการลามไฟและให้เวลาในการอพยพมากขึ้นในกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ (อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีการออกแบบระบบป้องกันอัคคีภัยโดยรวมที่ดี)
ปลอดสารพิษ (Non-toxic): โฟม EPS บริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพขณะใช้งานปกติ (ไม่มีฟอร์มาลดีไฮด์) ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ และไม่ปล่อยสารระเหยที่เป็นอันตรายต่ออากาศภายในอาคาร (Low VOCs)
ไม่เป็นแหล่งเพาะเชื้อ: ไม่เป็นอาหารของแมลง, ปลวก, หรือแบคทีเรีย
1.7. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรีไซเคิลได้ (Environmentally Friendly and Recyclable):
กระบวนการผลิต: ไม่มีการใช้สาร CFCs (Chlorofluorocarbons) หรือ HCFCs (Hydrochlorofluorocarbons) ซึ่งเป็นสารทำลายชั้นโอโซนในบรรยากาศ
รีไซเคิลได้ 100%: โฟม EPS จัดเป็นพลาสติกประเภท Polystyrene (PS) รหัส 6 สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้โดยการบดอัด หลอมใหม่ และนำไปผลิตเป็นเม็ดพลาสติกเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ (เช่น กรอบรูป, ตลับใส่เครื่องสำอาง, ของเล่น) ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ลด Carbon Footprint: การใช้โฟม EPS เป็นฉนวนช่วยลดการใช้พลังงานในอาคาร ซึ่งส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตไฟฟ้า
1.8. คุณสมบัติทางเสียง (Sound Attenuation):
โครงสร้าง: โครงสร้างเซลล์ที่เต็มไปด้วยอากาศช่วยในการลดทอนคลื่นเสียง (Sound Attenuation) ได้ในระดับหนึ่ง
ประโยชน์: ลดเสียงรบกวน: สามารถช่วยลดเสียงรบกวนที่ผ่านผนังหรือหลังคา ทำให้สภาพแวดล้อมภายในอาคารเงียบสงบขึ้น

Add a compelling title for your section to engage your audience.

Use this paragraph section to get your website visitors to know you. Consider writing about you or your organization, the products or services you offer, or why you exist. Keep a consistent communication style.

ติอต่อเรา

Add a descriptive title for the column.

ประโยชน์และการใช้งานที่หลากหลาย (Benefits and Diverse Applications)

คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้นทำให้โฟม EPS มีประโยชน์และถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ:
2.1. ประโยชน์ในงานก่อสร้างและสถาปัตยกรรม (Building and Construction):
ประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน: เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างอาคารประหยัดพลังงาน (Green Building) ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานตลอดอายุการใช้งานของอาคาร
ลดต้นทุนการก่อสร้าง: ด้วยน้ำหนักที่เบา ทำให้ลดขนาดและปริมาณของโครงสร้างหลัก (เสา, คาน, ฐานราก) รวมถึงค่าแรงและเวลาในการติดตั้ง
ลดปัญหาอาคารทรุด: ใช้เป็นวัสดุถมเบา (GeoFoam) ในพื้นที่ดินอ่อน หรือพื้นที่ที่ต้องการลดน้ำหนักการถมอย่างมาก ทำให้ถนนหรืออาคารไม่ทรุดตัว
ก่อสร้างรวดเร็ว: เหมาะสำหรับระบบผนังสำเร็จรูป (Sandwich Panels) ที่ประกอบจากโฟม EPS ช่วยให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลา
เพิ่มความทนทานของโครงสร้าง: ช่วยป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากพื้นดินหรืออากาศภายนอกมายังโครงสร้างโดยตรง ช่วยรักษาเสถียรภาพของวัสดุ
เป็นมิตรต่อสุขภาพ: ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค, ปลวก, แมลง และไม่ปล่อยสารพิษ
2.2. ประโยชน์ในงานบรรจุภัณฑ์ (Packaging Industry):
คุ้มครองสินค้าสูงสุด: คุณสมบัติการดูดซับแรงกระแทกที่ดีเยี่ยม ทำให้สินค้าที่บอบบางได้รับการป้องกันอย่างดี ลดความเสียหายจากการขนส่ง
รักษาคุณภาพสินค้า: กล่องโฟม EPS ช่วยรักษาอุณหภูมิของสินค้า (อาหารสด, ยา, เครื่องดื่ม) ให้คงที่ ลดการเน่าเสียและรักษาความสดใหม่
น้ำหนักเบา ลดต้นทุนค่าขนส่ง: ทำให้ลดน้ำหนักรวมของพัสดุ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง
2.3. ประโยชน์ในงานศิลปะ หัตถกรรม และโมเดล (Arts, Crafts, and Models):
สร้างสรรค์ได้ไร้ขีดจำกัด: สามารถตัด, แกะสลัก, ขึ้นรูป, และดัดแปลงได้ง่ายด้วยเครื่องมือทั่วไป (เช่น ลวดความร้อน) ทำให้เหมาะสำหรับการสร้างสรรค์งานศิลปะ, โมเดลสถาปัตยกรรม, ฉากประกอบ, หรือประติมากรรม
น้ำหนักเบา: เหมาะสำหรับงานที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย หรือต้องการลดน้ำหนักโดยรวมของชิ้นงาน
2.4. ประโยชน์ในงานเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอื่นๆ:
เพิ่มประสิทธิภาพในการปลูก: ในระบบไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics) หรือการผสมดิน โฟม EPS บดช่วยให้ดินร่วนซุย มีการระบายอากาศและระบายน้ำที่ดี ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากพืช
เป็นส่วนประกอบอุปกรณ์กีฬา/นันทนาการ: เช่น แกนกลางของกระดานโต้คลื่น, ทุ่นลอยน้ำ, หรืออุปกรณ์ป้องกันบางประเภท เพราะน้ำหนักเบาและลอยน้ำได้

ข้อควรพิจารณาเพื่อการใช้งานจริง (Practical Considerations)

แม้จะมีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย แต่การใช้งานโฟม EPS อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้:
3.1. การเลือกเกรดและความหนาแน่น: F-Grade (Flame Retardant Grade): สำหรับงานก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับอาคาร ควรเลือกใช้โฟม EPS เกรด F เสมอ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดจากอัคคีภัย แม้จะมีราคาสูงกว่าเกรด P เล็กน้อย แต่ความปลอดภัยที่ได้นั้นคุ้มค่า
ความหนาแน่น: เลือกความหนาแน่นให้เหมาะสมกับการรับน้ำหนักและการใช้งาน เช่น: ต่ำ (0.6−1.0 lb/ft3): บรรจุภัณฑ์ทั่วไป, งานศิลปะ
ปานกลาง (1.0−1.5 lb/ft3): ฉนวนกันความร้อนทั่วไป, ผนังแซนวิช
สูง (2.0−3.0 lb/ft3 ขึ้นไป): งาน GeoFoam, พื้นห้องเย็น, งานรับแรงกดสูง
3.2. การป้องกันแสง UV: โฟม EPS ไม่ทนทานต่อรังสียูวี หากติดตั้งภายนอกอาคารที่โดนแดดโดยตรง ควรมีการปิดผิวด้วยวัสดุอื่น เช่น แผ่นเหล็กเคลือบสี, ปูนฉาบ, หรือแผ่นยิปซั่ม เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ
3.3. การป้องกันสารเคมี: หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารละลายอินทรีย์บางชนิด เช่น ทินเนอร์, อะซิโตน, เบนซิน เพราะสามารถละลายโฟมได้ ควรใช้กาวหรือวัสดุเคลือบผิวที่ระบุว่าปลอดภัยสำหรับโฟม EPS
3.4. การติดตั้งที่ถูกต้อง: เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรติดตั้งตามคำแนะนำของผู้ผลิตและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดช่องว่างน้อยที่สุดและป้องกันการซึมผ่านของอากาศ (Air Leakage) ซึ่งจะลดประสิทธิภาพของฉนวน
3.5. การจัดการเศษวัสดุ: วางแผนการจัดการเศษโฟม EPS ที่เหลือจากการใช้งาน โดยเฉพาะงานก่อสร้าง ควรมีการรวบรวมเพื่อส่งต่อให้โรงงานรีไซเคิล เพื่อลดปริมาณขยะและสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน

ขอรายละเอียดเพิ่มเติม

ขอใบเสนอราคา

สายด่วนงานโฟม โทร. 062-336-9655, 062-585-4499, 082-440-2525