ข้อมูลผลทดสอบการลามไฟของโฟม EPS, การใช้งาน, วิธีการเลือก, และการแยกประเภท
โฟม EPS (Expanded Polystyrene) เป็นวัสดุยอดนิยมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานก่อสร้าง ฉนวนกันความร้อน งานบรรจุภัณฑ์ และงานศิลปะ ด้วยคุณสมบัติที่เบา ราคาประหยัด และมีประสิทธิภาพในการเป็นฉนวน อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติการลามไฟเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
ผลทดสอบการลามไฟของโฟม EPS
การลามไฟของโฟม EPS เป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่ต้องพิจารณาในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาคาร โฟม EPS ทั่วไปจัดเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ง่ายและลามไฟได้เร็วเมื่อสัมผัสกับแหล่งกำเนิดประกายไฟ แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาโฟม EPS ให้มีคุณสมบัติหน่วงการลามไฟ (Fire Retardant – FR) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
มาตรฐานการทดสอบการลามไฟที่พบบ่อย:
- ASTM E84 (UL 723) – Standard Test Method for Surface Burning Characteristics of Building Materials:
- เป็นการทดสอบความสามารถในการลามไฟที่ผิวหน้า (Flame Spread Index – FSI) และการเกิดควัน (Smoke Developed Index – SDI)
- Class A (FSI 0-25, SDI 0-450): วัสดุไม่ลามไฟหรือลามไฟช้ามาก
- Class B (FSI 26-75, SDI 0-450): วัสดุลามไฟปานกลาง
- Class C (FSI 76-200, SDI 0-450): วัสดุลามไฟเร็ว
- โฟม EPS ทั่วไปมักจะจัดอยู่ใน Class C หรือไม่ผ่านเกณฑ์ ส่วนโฟม EPS แบบ FR จะได้รับการทดสอบและอาจผ่านเกณฑ์ Class B หรือ Class A ขึ้นอยู่กับส่วนผสม
- EN 13501-1 – Fire Classification of Construction Products and Building Elements:
- มาตรฐานยุโรปที่ครอบคลุมการจัดประเภทการตอบสนองต่อไฟสำหรับผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง
- แบ่งเป็น Class A1, A2, B, C, D, E, F โดย A1 คือไม่ติดไฟเลย และ F คือไม่สามารถจัดประเภทได้
- นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาการเกิดควัน (s1, s2, s3) และหยดที่ติดไฟ (d0, d1, d2)
- โฟม EPS แบบ FR มักจะได้รับการจัดประเภทใน Class E หรือ Class D (ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นและสารหน่วงไฟ)
- ISO 5660-1 – Reaction-to-fire Tests – Heat Release, Smoke Production and Mass Loss Rate:
- การทดสอบด้วย Cone Calorimeter เพื่อวัดอัตราการปล่อยความร้อน (Heat Release Rate – HRR) การผลิตควัน และการสูญเสียมวล ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินอันตรายจากเพลิงไหม้
- มาตรฐานอื่นๆ (แล้วแต่ประเทศ/ภูมิภาค): เช่น NFPA (National Fire Protection Association) ของสหรัฐอเมริกา, BS (British Standards) ของอังกฤษ, TIS (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) ของประเทศไทย
ข้อมูลที่สำคัญจากผลทดสอบ:
- Flame Spread Index (FSI): ดัชนีการลามไฟ ยิ่งค่าน้อยยิ่งลามไฟช้า
- Smoke Developed Index (SDI): ดัชนีการเกิดควัน ยิ่งค่าน้อยยิ่งเกิดควันน้อย (ควันเป็นอันตรายต่อการอพยพ)
- Heat Release Rate (HRR): อัตราการปล่อยความร้อน ยิ่งค่าน้อยยิ่งทำให้ไฟลามช้าลงและมีความรุนแรงน้อยลง
- Self-Extinguishing (ดับไฟเอง): คุณสมบัติของวัสดุที่เมื่อเอาแหล่งกำเนิดไฟออกแล้ว วัสดุจะดับไฟเอง
ข้อควรทราบ:
- “ไม่ลามไฟ” (Non-combustible) กับ “หน่วงการลามไฟ” (Fire Retardant/Self-Extinguishing): สองคำนี้ต่างกันมาก “ไม่ลามไฟ” หมายถึงวัสดุนั้นไม่ติดไฟเลยแม้จะได้รับความร้อนสูง เช่น คอนกรีต อิฐ เหล็ก ส่วน “หน่วงการลามไฟ” หมายถึงวัสดุนั้นยังสามารถติดไฟได้ แต่จะติดยากขึ้น ลามช้าลง และอาจจะดับเองเมื่อเอาแหล่งกำเนิดไฟออก โฟม EPS แบบ FR จัดอยู่ในกลุ่มหลัง
- สภาพแวดล้อมการใช้งาน: ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการอาจแตกต่างจากการใช้งานจริงเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่น การติดตั้ง การระบายอากาศ วัสดุอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง

Add a compelling title for your section to engage your audience.
Use this paragraph section to get your website visitors to know you. Consider writing about you or your organization, the products or services you offer, or why you exist. Keep a consistent communication style.

Add a descriptive title for the column.
วิธีการเลือกโฟม EPS
การเลือกโฟม EPS ต้องพิจารณาจากคุณสมบัติการใช้งานและความปลอดภัยเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติการลามไฟ
ปัจจัยในการพิจารณา:
- คุณสมบัติการลามไฟ (Fire Retardant – FR):
- สำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง: เช่น ผนังอาคาร ผนังห้องเย็นในโรงงานอุตสาหกรรมอาคารสาธารณะ แนะนำให้ใช้ โฟม EPS แบบ FR (Fire Retardant) ซึ่งมีการเติมสารหน่วงการลามไฟเข้าไปในกระบวนการผลิต ทำให้ติดไฟยากขึ้น ลามช้าลง และอาจจะดับเองเมื่อเอาแหล่งกำเนิดไฟออก ควรขอเอกสารรับรองผลการทดสอบจากผู้ผลิต (เช่น Certificate of Analysis, Test Report) เพื่อยืนยันคุณสมบัติ
- สำหรับงานที่ไม่เน้นความปลอดภัยจากอัคคีภัยมากนัก หรือใช้งานภายนอกอาคารที่ความเสี่ยงต่ำ: เช่น งานบรรจุภัณฑ์ งานศิลปะ โฟม EPS ทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ แต่ต้องคำนึงถึงแหล่งกำเนิดประกายไฟที่อาจเกิดขึ้น
- ความหนาแน่น (Density):
- ความหนาแน่นของโฟม EPS มีผลต่อความแข็งแรง การรับแรงกระแทก และค่าความเป็นฉนวน โดยทั่วไปยิ่งความหนาแน่นสูงยิ่งแข็งแรง และมีค่าความเป็นฉนวนที่ดีขึ้นเล็กน้อย
- งานโครงสร้าง/รับน้ำหนัก: เลือกความหนาแน่นสูง (เช่น 1.0 – 2.0 lbs/ft³ หรือ 16-32 kg/m³)
- งานฉนวน/ทั่วไป: เลือกความหนาแน่นปานกลาง (เช่น 0.8 – 1.0 lbs/ft³ หรือ 13-16 kg/m³)
- งานบรรจุภัณฑ์/กันกระแทก: เลือกความหนาแน่นต่ำ (เช่น 0.6 – 0.8 lbs/ft³ หรือ 10-13 kg/m³)
- ค่าการนำความร้อน (K-value หรือ Lambda value):
- ยิ่งค่าน้อยยิ่งเป็นฉนวนที่ดี ค่า K-value ของโฟม EPS มักจะอยู่ระหว่าง 0.032 – 0.040 W/m·K
- สำหรับงานฉนวนกันความร้อน ควรเปรียบเทียบค่านี้จากผู้ผลิตหลายราย
- ขนาดและความหนา: เลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งานและวัตถุประสงค์
- ผู้ผลิตและมาตรฐาน: เลือกซื้อจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐานการผลิต และสามารถให้ข้อมูลผลการทดสอบต่างๆ ได้
- งบประมาณ: โฟม EPS แบบ FR มักจะมีราคาสูงกว่าโฟม EPS ทั่วไปเล็กน้อย
การใช้งานโฟม EPS
การใช้งานโฟม EPS มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทและคุณสมบัติของโฟม
ประเภทการใช้งานหลัก:
- ฉนวนกันความร้อน:
- ผนัง: ใช้เป็นแกนกลางในแผ่นฉนวนสำเร็จรูป (Sandwich Panel) หรือใช้เป็นฉนวนภายในผนังเบา
- หลังคา: ใช้เป็นฉนวนใต้แผ่นหลังคา เพื่อลดการถ่ายเทความร้อนจากภายนอก
- พื้น: ใช้เป็นฉนวนรองพื้น เพื่อป้องกันความเย็นจากพื้นดิน หรือใช้ในห้องเย็น
- ท่อส่งความเย็น: ใช้เป็นฉนวนหุ้มท่อส่งน้ำเย็นในระบบปรับอากาศ
- สำหรับงานฉนวนที่เน้นความปลอดภัย: ควรเลือกโฟม EPS แบบ FR และติดตั้งให้ถูกต้องตามข้อกำหนดของอาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาคารสาคารณะ อาคารสูง หรือโรงงานอุตสาหกรรม
- งานก่อสร้าง:
- ไส้กลางผนังสำเร็จรูป (Sandwich Panel): เป็นที่นิยมมากสำหรับผนังห้องเย็น ผนังโรงงาน ผนังอาคารสำเร็จรูป
- งานปรับระดับพื้น/ถมที่: ใช้โฟม EPS แทนการถมดินหรือทราย เพื่อลดน้ำหนักโครงสร้างอาคาร โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ดินอ่อน หรือต้องการลดน้ำหนักบรรทุก
- คันทางเบา (Lightweight Embankment): ใช้ในการก่อสร้างถนนในพื้นที่ดินอ่อน เพื่อลดการทรุดตัวของถนน
- ตกแต่งอาคาร: ใช้ทำบัว เชิงชาย หรือลวดลายตกแต่งที่ต้องการน้ำหนักเบา
- ในงานก่อสร้าง ควรเน้นโฟม EPS แบบ FR ที่มีผลทดสอบรองรับ
- งานบรรจุภัณฑ์:
- กันกระแทก: ป้องกันสินค้าแตกหักเสียหายระหว่างขนส่ง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์
- กล่องเก็บความเย็น/อาหาร: เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นฉนวนที่ดี จึงนิยมนำมาทำกล่องเก็บความเย็นสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม
- สำหรับงานบรรจุภัณฑ์ทั่วไป มักใช้โฟม EPS แบบธรรมดา (ไม่ใช่ FR) เนื่องจากความเสี่ยงด้านอัคคีภัยต่ำ และความคุ้มค่าด้านราคา
- งานศิลปะและงานฝีมือ:
- แกะสลัก ทำแบบจำลอง ใช้ในงานประดิษฐ์ต่างๆ
- สำหรับงานศิลปะ มักใช้โฟม EPS แบบธรรมดา
การแยกประเภทโฟม EPS
โฟม EPS สามารถแยกประเภทได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและกระบวนการผลิต
4.1 แยกตามคุณสมบัติการลามไฟ:
- โฟม EPS แบบธรรมดา (General Purpose EPS):
- ไม่ได้เติมสารหน่วงการลามไฟ
- ติดไฟได้ง่ายและลามไฟได้เร็วเมื่อสัมผัสกับแหล่งกำเนิดประกายไฟ
- เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องการคุณสมบัติหน่วงการลามไฟสูง เช่น บรรจุภัณฑ์ งานฝีมือ หรืองานที่ความเสี่ยงต่ำ และมีการป้องกันไฟอย่างดี
- โฟม EPS แบบ FR (Fire Retardant EPS) หรือ Self-Extinguishing EPS:
- มีการเติมสารหน่วงการลามไฟ (เช่น polymeric flame retardants) เข้าไปในเม็ดพลาสติกก่อนการขึ้นรูป
- เมื่อได้รับความร้อนสูง หรือสัมผัสกับเปลวไฟ จะติดไฟยากขึ้น ลามไฟช้าลง และอาจจะดับไฟเองเมื่อเอาแหล่งกำเนิดไฟออก (แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ติดไฟเลย)
- เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับงานก่อสร้าง งานฉนวนในอาคาร โรงงาน ห้องเย็น ที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยจากอัคคีภัย
- เป็นที่นิยมและเป็นข้อบังคับในงานก่อสร้างบางประเภท
4.2 แยกตามความหนาแน่น:
- EPS ความหนาแน่นต่ำ: เบาที่สุด ราคาถูกที่สุด เหมาะสำหรับงานบรรจุภัณฑ์ งานศิลปะ งานที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก
- EPS ความหนาแน่นปานกลาง: ใช้กันทั่วไปในงานฉนวน งานก่อสร้างที่ไม่เน้นการรับน้ำหนักสูง
- EPS ความหนาแน่นสูง (High Density EPS): แข็งแรงที่สุด รับน้ำหนักได้ดี เหมาะสำหรับงานโครงสร้าง งานปรับระดับพื้น คันทางเบา หรือบางครั้งใช้เป็นฉนวนในงานที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ
4.3 แยกตามรูปแบบ/ลักษณะสินค้า:
- แผ่นโฟม EPS (EPS Sheets/Boards): เป็นรูปแบบที่พบมากที่สุด มีขนาดและความหนาหลากหลาย ใช้สำหรับงานฉนวน ผนังบรรจุภัณฑ์
- บล็อกโฟม EPS (EPS Blocks): เป็นบล็อกขนาดใหญ่ สามารถนำมาตัดแบ่งได้ตามต้องการ ใช้ในงานประติมากรรม งานโครงสร้างปรับระดับพื้น
- เม็ดโฟม EPS (EPS Beads): เป็นเม็ดเล็กๆ ใช้สำหรับงานบรรจุภัณฑ์กันกระแทก บรรจุในหมอนหรือถุง
- โฟม EPS ขึ้นรูป (Molded EPS): เป็นการขึ้นรูปตามรูปร่างของผลิตภัณฑ์ เช่น กล่องบรรจุภัณฑ์กันกระแทกสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า กล่องเก็บความเย็น
ข้อควรระวังและคำแนะนำเพิ่มเติม
- เอกสารรับรอง: ในการใช้งานโฟม EPS โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานก่อสร้าง ควรขอเอกสารรับรองจากผู้ผลิตที่ระบุคุณสมบัติของโฟม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของผลการทดสอบการลามไฟ (Test Report, Certificate)
- การติดตั้ง: การติดตั้งโฟม EPS อย่างถูกต้องก็มีส่วนสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัย ควรติดตั้งตามคำแนะนำของผู้ผลิต และปฏิบัติตามข้อกำหนดของอาคารและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
- การปกป้อง: แม้จะเป็นโฟม EPS แบบ FR ก็ควรมีการปกป้องจากแหล่งกำเนิดประกายไฟ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเปลวไฟโดยตรง การบุด้วยวัสดุที่ไม่ติดไฟ เช่น แผ่นยิปซั่มบอร์ด แผ่นเหล็ก หรือวัสดุหุ้มอื่นๆ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มาก
- สารเคมี: โฟม EPS อาจไม่ทนทานต่อสารเคมีบางชนิด เช่น ตัวทำละลายอินทรีย์ ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ก่อนใช้งาน
- อุณหภูมิ: โฟม EPS มีข้อจำกัดในการใช้งานที่อุณหภูมิสูง โดยทั่วไปไม่ควรใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 80-90 องศาเซลเซียส
ขอรายละเอียดเพิ่มเติม
ขอใบเสนอราคา