ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฟมก่อสร้างแต่ละประเภท
โฟม EPS (Expanded Polystyrene) หรือที่คนทั่วไปมักเรียกว่า “โฟมขาว” เป็นวัสดุพลาสติกประเภทหนึ่งที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีสไตรีน (Polystyrene) ที่ผ่านกระบวนการขยายตัวด้วยความร้อนและแรงดันไอน้ำ ทำให้เกิดเป็นโครงสร้างเซลล์ปิด (Closed-cell structure) ที่มีอากาศอยู่ภายในจำนวนมาก ทำให้โฟม EPS มีคุณสมบัติเด่นในด้านความเบา การเป็นฉนวนกันความร้อนและเสียง การรับแรงกระแทกได้ดี และความสามารถในการขึ้นรูปที่หลากหลาย ชื่อเรียกอื่น: โฟมขาว, โฟมกล่อง, โฟมกันกระแทก, โฟมฉนวน, โฟมวิศวกรรม, โพลีสไตรีนขยายตัว
โฟม EPS (Expanded Polystyrene Foam) – โฟมเม็ดขาวอัด
กระบวนการผลิต: ผลิตจากเม็ดพลาสติก Polystyrene ที่มีก๊าซ Pentane อยู่ภายใน เมื่อเม็ดพลาสติกเหล่านี้ถูกนำไปให้ความร้อนด้วยไอน้ำ (steam) เม็ดจะขยายตัวเป็นโฟมเม็ดกลมๆ เล็กๆ ที่มีโครงสร้างเซลล์เปิด (open cell structure) จากนั้นนำโฟมเม็ดที่ขยายตัวแล้วมาอัดเข้าด้วยกันภายใต้ความร้อนและความดันเพื่อให้เกิดเป็นแผ่นหรือบล็อกตามขนาดที่ต้องการ
คุณสมบัติทางกายภาพและทางกลเพิ่มเติม:
- ค่าการนำความร้อน (Thermal Conductivity, λ): อยู่ในช่วงประมาณ 0.035 – 0.040 W/(m·K) (วัตต์ต่อเมตร-เคลวิน) ยิ่งค่านี้ต่ำ ยิ่งเป็นฉนวนที่ดี
- ค่า R-Value (Thermal Resistance): เป็นค่าต้านทานความร้อน ยิ่งสูงยิ่งเป็นฉนวนที่ดี โดย EPS มีค่า R-Value ประมาณ 3.8 – 4.2 ต่อความหนา 1 นิ้ว
- ความหนาแน่น (Density): มีตั้งแต่ 0.6 – 2.0 ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต (lb/ft³) หรือประมาณ 10 – 32 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (kg/m³) ยิ่งความหนาแน่นสูง ความแข็งแรงก็ยิ่งสูง
- แรงกดอัด (Compressive Strength): ประมาณ 10 – 25 psi (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) สำหรับความหนาแน่นที่ใช้ในงานก่อสร้างทั่วไป
- การดูดซึมน้ำ: แม้จะเป็นเซลล์เปิด แต่โครงสร้างของเม็ดโฟมที่อัดแน่นทำให้การดูดซึมน้ำค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ประมาณ 2-4% โดยปริมาตร
- ทนอุณหภูมิ: ใช้งานได้ดีในช่วงอุณหภูมิ -50°C ถึง +75°C
- ความคงรูป: มีความคงรูปดี ไม่ยุบตัวง่ายภายใต้น้ำหนักที่ไม่มากเกินไป
ประเภทของ EPS ในตลาด:
- EPS F-Grade (Flammable): เป็นเกรดที่ไม่เติมสารหน่วงการติดไฟ ไม่แนะนำให้ใช้ในงานก่อสร้างที่ต้องการความปลอดภัยสูง
- EPS P-Grade (Fire Retardant): เป็นเกรดที่เติมสารหน่วงการติดไฟ (เช่น Hexabromocyclododecane – HBCD หรือ polymeric flame retardants) ซึ่งจะช่วยให้โฟมดับได้เองเมื่อนำออกจากเปลวไฟ เหมาะสำหรับงานก่อสร้าง
ข้อดีเพิ่มเติม:
- ราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับโฟมชนิดอื่น
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในแง่ของการรีไซเคิลได้ง่าย และไม่มีสาร CFCs หรือ HCFCs ที่ทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศ
- ตัดและขึ้นรูปได้ง่ายมากด้วยเครื่องมือทั่วไป
ข้อควรระวังเพิ่มเติม:
- ไม่ทนต่อสารทำละลาย: เช่น ทินเนอร์, น้ำมันเบนซิน, อะซิโตน สารเหล่านี้จะละลายโฟม EPS ได้อย่างรวดเร็ว
- ไม่ทนต่อรังสี UV: หากสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานานจะเกิดการเสื่อมสภาพ เหลืองกรอบ และผุพัง
- เป็นแหล่งอาหารของสัตว์ฟันแทะ/ปลวก: มีโอกาสถูกกัดแทะได้หากไม่มีการป้องกันที่ดี

Add a compelling title for your section to engage your audience.
Use this paragraph section to get your website visitors to know you. Consider writing about you or your organization, the products or services you offer, or why you exist. Keep a consistent communication style.

Add a descriptive title for the column.
โฟม XPS (Extruded Polystyrene Foam) – โฟมสีฟ้า/เขียว/ชมพูอัดแน่น
กระบวนการผลิต: ผลิตโดยการหลอมเม็ดพลาสติก Polystyrene แล้วฉีดผ่านแม่พิมพ์ (extrusion process) พร้อมกับอัดก๊าซที่เป็นสารช่วยในการขยายตัว (blowing agent) เข้าไปในเนื้อพลาสติก ทำให้เกิดโครงสร้างเซลล์ปิด (closed cell structure) ที่สม่ำเสมอ
คุณสมบัติทางกายภาพและทางกลเพิ่มเติม:
- ค่าการนำความร้อน (λ): ต่ำกว่า EPS เล็กน้อย อยู่ในช่วงประมาณ 0.028 – 0.033 W/(m·K) แสดงถึงประสิทธิภาพการเป็นฉนวนที่ดีกว่า
- ค่า R-Value: สูงกว่า EPS เล็กน้อย ประมาณ 4.5 – 5.0 ต่อความหนา 1 นิ้ว
- ความหนาแน่น: สูงกว่า EPS โดยทั่วไป อยู่ในช่วงประมาณ 1.8 – 2.8 ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต (lb/ft³) หรือประมาณ 29 – 45 kg/m³
- แรงกดอัด: สูงกว่า EPS มาก ประมาณ 25 – 100 psi ขึ้นอยู่กับความหนาแน่น เหมาะสำหรับการรับน้ำหนักและแรงกดทับ
- การดูดซึมน้ำ: ต่ำมาก อยู่ที่ประมาณ 0.5 – 1.0% โดยปริมาตร เนื่องจากโครงสร้างเซลล์ปิด ป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้ดีเยี่ยม
- ทนอุณหภูมิ: ใช้งานได้ดีในช่วงอุณหภูมิ -50°C ถึง +75°C
- ความคงรูป: มีความคงรูปและมิติที่คงที่สูงมาก
ข้อดีเพิ่มเติม:
- ประสิทธิภาพการเป็นฉนวนสูงในระยะยาว แม้ในสภาพแวดล้อมที่ชื้น
- ทนทานต่อแรงกดอัดสูง เหมาะสำหรับงานใต้พื้น ดาดฟ้า หรือพื้นที่ที่มีการจราจร
- อายุการใช้งานยาวนานกว่า EPS เนื่องจากทนทานต่อความชื้นและการเสื่อมสภาพ
- ตัดและติดตั้งได้ง่ายด้วยเครื่องมือช่างทั่วไป
ข้อควรระวังเพิ่มเติม:
- ราคาสูงกว่า EPS: เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าเมื่อต้องการประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
- ไม่ทนต่อสารทำละลาย: เช่นเดียวกับ EPS ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับทินเนอร์
- อาจมีการใช้สารทำฟอง (blowing agent) ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: ในอดีตเคยใช้สาร HCFCs แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนไปใช้สารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น HFCs หรือสารอื่น ๆ ที่มีค่า GWP (Global Warming Potential) ต่ำ
โฟม PU (Polyurethane Foam) – โฟมฉีดพ่น/แผ่นสำเร็จรูป
กระบวนการผลิต: เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีระหว่าง Isocyanate (MDI หรือ TDI) และ Polyol (ส่วนผสมของเรซิน, สารทำฟอง, ตัวเร่งปฏิกิริยา และสารเติมแต่ง) เมื่อผสมกัน จะเกิดปฏิกิริยาพองตัวและแข็งตัวเป็นโฟม โฟม PU มีโครงสร้างทั้งเซลล์เปิด (open cell) และเซลล์ปิด (closed cell) ขึ้นอยู่กับสูตรเคมีและกระบวนการผลิต
คุณสมบัติทางกายภาพและทางกลเพิ่มเติม:
- ค่าการนำความร้อน (λ): ต่ำมาก อยู่ในช่วงประมาณ 0.022 – 0.030 W/(m·K) เป็นฉนวนที่มีประสิทธิภาพสูงมาก
- ค่า R-Value: สูงที่สุดในกลุ่มโฟมที่กล่าวมา ประมาณ 6.0 – 7.0 ต่อความหนา 1 นิ้ว
- ความหนาแน่น: มีหลากหลาย ตั้งแต่ 0.5 lb/ft³ (แบบพ่นฉนวน) ไปจนถึง 6 lb/ft³ (แบบโครงสร้าง)
- แรงกดอัด: มีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นและชนิดของ PU (rigid, flexible) แต่โดยทั่วไปแบบแข็งจะมีความแข็งแรงที่ดี
- การดูดซึมน้ำ: ต่ำถึงต่ำมาก โดยเฉพาะชนิดเซลล์ปิด
- ทนอุณหภูมิ: ใช้งานได้ดีในช่วงอุณหภูมิ -200°C ถึง +120°C (ขึ้นอยู่กับสูตรเคมี)
- การยึดเกาะ: มีการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมกับวัสดุหลากหลายชนิด เช่น โลหะ คอนกรีต ไม้
ประเภทของ PU ในตลาด:
- Rigid PU Foam: โฟมแข็ง ใช้เป็นฉนวนกันความร้อนหลัก เช่น ในแผ่น Sandwich Panel, ฉนวนพ่นหลังคา
- Flexible PU Foam: โฟมนิ่ม ใช้ในงานเบาะ เฟอร์นิเจอร์ หรือบรรจุภัณฑ์
- Spray Foam (PU Foam): โฟมพ่นฉนวนกันความร้อนที่ใช้กันมากในงานหลังคาและผนัง มีทั้งแบบ Open-cell (ความหนาแน่นต่ำ, กันเสียงดี, ยืดหยุ่น) และ Closed-cell (ความหนาแน่นสูง, กันความร้อนดีเยี่ยม, กันน้ำ)
ข้อดีเพิ่มเติม:
- ประสิทธิภาพสูงสุด: ให้ประสิทธิภาพการเป็นฉนวนความร้อนที่ยอดเยี่ยม ทำให้ประหยัดพลังงานได้มาก
- ไร้รอยต่อ (สำหรับแบบพ่น): การพ่นทำให้เกิดชั้นฉนวนที่ต่อเนื่อง ไม่มีรอยต่อ ช่วยลดการรั่วไหลของอากาศและความร้อน
- ยึดเกาะดี: ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างที่ไปยึดเกาะ
- น้ำหนักเบา: แม้จะแข็งแรง แต่ก็มีน้ำหนักเบา
ข้อควรระวังเพิ่มเติม:
- การติดตั้งแบบพ่นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ: ต้องมีอุปกรณ์เฉพาะและบุคลากรที่มีความรู้ เพื่อให้ได้คุณภาพงานที่ดีและปลอดภัย
- สารเคมี: ระหว่างการพ่น อาจมีไอระเหยของสารเคมี ควรมีการระบายอากาศที่ดีและผู้ปฏิบัติงานต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
- ราคาสูง: มีราคาสูงกว่า EPS และ XPS
- ความทนทานต่อ UV: เช่นเดียวกับโฟมอื่นๆ PU ก็ไม่ทนต่อรังสี UV โดยตรง ควรมีวัสดุปิดทับ
โฟม PIR (Polyisocyanurate Foam) – โฟมกันไฟสูง
กระบวนการผลิต: คล้ายคลึงกับ PU Foam แต่มีอัตราส่วนของ Isocyanate ต่อ Polyol ที่สูงกว่า และใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ต่างกัน ทำให้เกิดโครงสร้างทางเคมีที่แตกต่างกันซึ่งให้คุณสมบัติในการกันไฟที่ดีขึ้น โครงสร้างเป็นแบบเซลล์ปิด
คุณสมบัติทางกายภาพและทางกลเพิ่มเติม:
- ค่าการนำความร้อน (λ): ต่ำที่สุดในกลุ่มนี้ อยู่ในช่วงประมาณ 0.020 – 0.024 W/(m·K) แสดงถึงประสิทธิภาพการเป็นฉนวนที่เหนือกว่า
- ค่า R-Value: สูงที่สุด ประมาณ 6.5 – 8.0 ต่อความหนา 1 นิ้ว
- ความหนาแน่น: ใกล้เคียงกับ PU หรือสูงกว่าเล็กน้อย
- แรงกดอัด: สูงและทนทาน
- การดูดซึมน้ำ: ต่ำมาก
- การกันไฟ (Fire Resistance): เป็นจุดเด่นที่สุด เมื่อสัมผัสเปลวไฟ โฟม PIR จะเกิดชั้นคาร์บอน (char layer) ขึ้นที่ผิว ซึ่งช่วยปกป้องเนื้อโฟมด้านในและไม่ลามไฟ ทำให้สามารถทนทานต่อไฟได้ดีกว่า PU และเกิดควันน้อยกว่ามาก (Low Smoke) ผ่านมาตรฐานการกันไฟที่เข้มงวดกว่า เช่น FM Approved (Factory Mutual)
- ทนอุณหภูมิ: ใช้งานได้ดีในอุณหภูมิที่กว้างกว่า PU เล็กน้อย ประมาณ -200°C ถึง +150°C
ข้อดีเพิ่มเติม:
- ความปลอดภัยสูงสุดด้านอัคคีภัย: เหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการมาตรฐานความปลอดภัยสูง เช่น โรงงาน, คลังสินค้า, โรงพยาบาล
- ประสิทธิภาพฉนวนสูงสุด: ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมหาศาล
- ความแข็งแรงและคงทน: มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ข้อควรระวังเพิ่มเติม:
- ราคาสูงที่สุด: เป็นการลงทุนที่สูงกว่า แต่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด
- การผลิตเฉพาะทาง: ต้องผลิตในโรงงานที่ได้มาตรฐานและมีเทคโนโลยีการผลิตที่ซับซ้อน
การเปรียบเทียบเชิงลึกและเกณฑ์การเลือกใช้งาน
เพื่อให้สามารถเลือกโฟมก่อสร้างได้อย่างเหมาะสมที่สุด ควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้:
- งบประมาณ (Cost):
- EPS: ราคาประหยัดที่สุด เหมาะสำหรับงานทั่วไปที่ต้องการฉนวนกันความร้อนพื้นฐาน
- XPS: ราคาสูงกว่า EPS เล็กน้อย คุ้มค่าสำหรับงานที่ต้องการความทนทานต่อความชื้นและแรงกด
- PU: ราคาสูงกว่า XPS เหมาะสำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพฉนวนสูง และสามารถพ่นเติมเต็มช่องว่างได้
- PIR: ราคาสูงที่สุด เหมาะสำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดด้านฉนวนและคุณสมบัติกันไฟที่ดีเยี่ยม
- ประสิทธิภาพฉนวนกันความร้อน (Thermal Performance):
- PIR > PU > XPS > EPS
- หากต้องการประหยัดพลังงานสูงสุดและรักษาอุณหภูมิได้ดีเยี่ยม (เช่น ห้องเย็น, ห้องควบคุมอุณหภูมิ) PIR และ PU คือตัวเลือกที่ดีที่สุด
- สำหรับฉนวนกันความร้อนทั่วไปในผนังหรือหลังคา EPS หรือ XPS ก็เพียงพอแล้ว
- คุณสมบัติการกันไฟ (Fire Safety):
- PIR: มีคุณสมบัติการกันไฟที่ดีที่สุด และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
- PU (บางเกรด) / EPS (เกรด P) / XPS (บางเกรด): มีคุณสมบัติไม่ลามไฟ แต่ยังไม่เทียบเท่า PIR
- สำคัญมาก: ต้องตรวจสอบใบรับรองมาตรฐานการกันไฟจากผู้ผลิตเสมอ
- ความทนทานต่อความชื้นและการดูดซึมน้ำ (Moisture Resistance):
- XPS > PIR > PU (Closed-cell) > EPS
- สำหรับงานใต้พื้น ดาดฟ้า หรือบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อความชื้นสูง XPS และ PIR จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากมีโครงสร้างเซลล์ปิดที่กันน้ำได้ดีเยี่ยม
- ความแข็งแรงและการรับน้ำหนัก (Compressive Strength):
- XPS > PIR > PU (Rigid) > EPS
- สำหรับงานที่ต้องรับน้ำหนักหรือแรงกดทับ เช่น ใต้พื้น, ใต้ฐานราก, XPS และ PIR จะให้ความแข็งแรงที่ดีกว่า
- วิธีการติดตั้ง (Installation Method):
- EPS, XPS, PIR (แผ่นสำเร็จรูป): ติดตั้งได้ง่ายด้วยการตัดและยึดด้วยกาว หรือสกรู
- PU Foam (แบบพ่น): ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์เฉพาะ เหมาะสำหรับการเติมเต็มช่องว่างที่ซับซ้อน หรือพื้นที่ขนาดใหญ่
- ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact):
- โฟมส่วนใหญ่ในปัจจุบันปราศจากสารทำลายโอโซน (CFCs/HCFCs)
- EPS สามารถรีไซเคิลได้ง่ายกว่าโฟมชนิดอื่น
- ควรตรวจสอบ GWP (Global Warming Potential) ของสารทำฟองที่ใช้ในการผลิตโฟมแต่ละชนิด
มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับโฟมก่อสร้าง
ในการเลือกใช้โฟมก่อสร้าง ควรพิจารณามาตรฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย:
- ASTM (American Society for Testing and Materials): มาตรฐานสากลที่กำหนดคุณสมบัติการทดสอบของวัสดุ
- ASTM C578: สำหรับโฟม EPS
- ASTM C591: สำหรับโฟม Rigid Cellular Polyurethane
- ASTM C1289: สำหรับ PIR Insulation Boards
- UL (Underwriters Laboratories): องค์กรอิสระที่ตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
- FM Approved (Factory Mutual Global): มาตรฐานการรับรองด้านการป้องกันความเสียหายและอัคคีภัย โดยเฉพาะสำหรับแผ่น PIR Sandwich Panel
- Green Label: มาตรฐานฉลากเขียวที่แสดงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- มาตรฐานมอก.: มาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศไทย (ถ้ามีสำหรับผลิตภัณฑ์นั้นๆ)
การนำไปใช้งานจริง (ตัวอย่าง)
- บ้านพักอาศัยทั่วไป:
- ผนัง: EPS (เกรด P) หรือ XPS
- หลังคา/ฝ้า: EPS (เกรด P) หรือ PU Foam แบบพ่น
- พื้น/ดาดฟ้า: XPS หรือ PIR (ถ้าต้องการประสิทธิภาพสูง)
- ห้องเย็น/ห้องคลีนรูม:
- ผนัง/หลังคา: PIR Sandwich Panel (สำหรับอุณหภูมิต่ำมาก หรือต้องการความปลอดภัยสูง) หรือ PU Sandwich Panel
- พื้น: XPS หรือ PIR
- โรงงานอุตสาหกรรม/คลังสินค้า:
- หลังคา: PU Foam พ่นใต้หลังคาเมทัลชีท
- ผนัง: PIR Sandwich Panel (สำหรับอาคารที่ต้องการลดความเสี่ยงจากอัคคีภัยและประหยัดพลังงาน)
- อาคารเขียว (Green Building):
- เน้นการใช้ PIR หรือ PU Foam ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อลดการใช้พลังงานในการปรับอากาศ
ขอรายละเอียดเพิ่มเติม
ขอใบเสนอราคา