Mon -Sat 08:00-18:00

Tel : 062-336-9655

info@atcinsu.com

บริษัท เอ.ที.คอน อินซูเลชั่น จำกัด เรียกว่าสั้นๆ ว่า เอ.ที.โฟม หรือ เอ.ที.คอน คือบริษัทเดียวกัน ที่ขายโฟม EPS
เม็ดโฟม EPS หรือ Expanded Polystyrene อันเป็นวัสดุโพลีเมอร์สังเคราะห์ที่ผลิตจาก เม็ดพลาสติกโพลีสไตรีน ที่ผ่านกระบวนการขยายตัวด้วยไอน้ำอย่างพิถีพิถันนี้ ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมต่างๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นในด้าน น้ำหนักเบา อย่างเหลือเชื่อ พร้อมด้วยศักยภาพในการเป็น ฉนวนกันความร้อน และ ฉนวนกันเสียง ที่มีประสิทธิภาพสูง อันเป็นผลมาจากโครงสร้างเซลล์ปิดอันเป็นเอกลักษณ์ที่กักเก็บอากาศไว้ภายในจำนวนมหาศาล ทำให้สามารถลดการถ่ายเทอุณหภูมิได้อย่างยอดเยี่ยม

PU FOAM

PU Foam คืออะไร? (Polyurethane Foam)

PU Foam (พียูโฟม) หรือ Polyurethane Foam (โพลียูรีเทนโฟม) คือวัสดุโพลีเมอร์ชนิดหนึ่งที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างสารประกอบหลักสองชนิด ได้แก่ โพลีออล (Polyol) และ ไอโซไซยาเนต (Isocyanate) โดยมีสารเติมแต่งอื่นๆ เช่น สารช่วยเป่า (Blowing Agent), ตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalyst), และสารคงสภาพ (Stabilizer) มาช่วยควบคุมคุณสมบัติของโฟมที่เกิดขึ้น
กระบวนการผลิต PU Foam มักเริ่มต้นด้วยของเหลวสองชนิด (Liquid Precursors) ที่เมื่อผสมกันแล้วจะเกิดปฏิกิริยาเคมีและขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นโครงสร้างเซลล์ปิด (Closed-cell) หรือเซลล์เปิด (Open-cell) ที่มีน้ำหนักเบา มีคุณสมบัติเด่นในการเป็นฉนวนกันความร้อน กันเสียง ซึมซับแรงกระแทก และอุดช่องว่างได้เป็นอย่างดี

แผ่น PU Foam สีเหลืองอ่อนขนาดใหญ่ วางซ้อนกันเป็นตั้งสูงในโรงงาน แสดงถึงการผลิตจำนวนมากและความพร้อมสำหรับนำไปใช้เป็นฉนวนกันความร้อนและเสียงในโครงการก่อสร้างและอุตสาหกรรม.

โฟมก้อนขนาด 60×120 cm

หนา 0.5 cm ถึง 63 cm

เกรดลามไฟ
เกรดไม่ลามไฟ
เคลื่อนย้ายง่าย
เหมาะในพื้นที่จำกัด

ข้อมูลเพิ่มเติม
PU foam นวัตกรรมใหม่ของ เอ.ที.คอน อินซูเลชั่น จำกัด สำหรับฉนวนท่อและท่อลม ป้องกันการสูญเสียความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ

โฟมก้อนขนาด 120×300 cm

หนา 0.5 cm ถึง 63 cm

เกรดลามไฟ
เกรดไม่ลามไฟ
เคลื่อนย้ายง่าย
ชิ้นใหญ่รอยต่อน้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม
PU foam อเนกประสงค์ของ เอ.ที.คอน อินซูเลชั่น จำกัด เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่ห้องใต้หลังคาที่อยู่อาศัยไปจนถึงตู้แช่แข็งเชิงพาณิชย์

โฟมก้อนขนาด 120×600 cm

หนา 0.5 cm ถึง 63 cm

เกรดลามไฟ
เกรดไม่ลามไฟ
เคลื่อนย้ายรถหกล้อขึ้นไป
ชิ้นใหญ่รอยต่อน้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม

ส่วนประกอบและการเกิดปฏิกิริยาของ PU Foam

เพื่อให้เข้าใจ PU Foam ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เรามาดูกันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร:
PU Foam เกิดจากปฏิกิริยาหลักระหว่างสารสองกลุ่มคือ:
โพลีออล (Polyol): เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีหมู่ไฮดรอกซิล (-OH) อย่างน้อยสองหมู่ในโมเลกุล ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารตั้งต้นหลักในการสร้างโครงสร้างโพลีเมอร์ แบ่งได้เป็น:
โพลีอีเทอร์โพลีออล (Polyether Polyols): มักให้โฟมที่มีความยืดหยุ่นสูง (Flexible PU Foam) เหมาะสำหรับที่นอน โซฟา
โพลีเอสเทอร์โพลีออล (Polyester Polyols): มักให้โฟมที่มีความแข็ง (Rigid PU Foam) เหมาะสำหรับฉนวนกันความร้อน
ไอโซไซยาเนต (Isocyanate): เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีหมู่ไอโซไซยาเนต (-NCO) แบ่งได้เป็น:
MDI (Methylene Diphenyl Diisocyanate): เป็นไอโซไซยาเนตที่นิยมใช้มากที่สุดในงาน PU Foam ทั่วไป
TDI (Toluene Diisocyanate): ใช้ในบางงานที่ต้องการคุณสมบัติเฉพาะ

สารเติมแต่ง (Additives) และบทบาท:

นอกจากสารตั้งต้นหลักแล้ว การผลิต PU Foam ยังต้องมีสารเติมแต่งเพื่อควบคุมปฏิกิริยาและคุณสมบัติของโฟม:
สารช่วยเป่า (Blowing Agent): เป็นสารที่ทำให้เกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือใช้สารไฮโดรคาร์บอนต่างๆ เช่น เพนเทน (Pentane) หรือ HFCs (Hydrofluorocarbons) เพื่อทำให้โฟมขยายตัวและเกิดโครงสร้างเซลล์ ตัวอย่างเช่น:
น้ำ (Water): เมื่อทำปฏิกิริยากับไอโซไซยาเนต จะเกิด CO2 ทำให้โฟมขยายตัว
สารทำความเย็น (Refrigerants): ในอดีตนิยมใช้ CFCs/HCFCs แต่ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยสารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น HFCs หรือ HFOs เพื่อประสิทธิภาพการเป็นฉนวนที่ดีเยี่ยม
ตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalyst): ช่วยควบคุมความเร็วของปฏิกิริยาเคมี ทำให้โฟมแข็งตัวในเวลาที่เหมาะสม
สารคงสภาพ (Surfactant/Stabilizer): ช่วยควบคุมขนาดและโครงสร้างของเซลล์โฟม ทำให้ได้โฟมที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ
สารหน่วงการติดไฟ (Flame Retardants): เพิ่มความสามารถในการทนไฟ ลดการลุกลามของไฟ
สารแต่งสี (Pigments): ใช้สำหรับแต่งสีโฟมตามความต้องการ

คุณสมบัติทางเทคนิคที่สำคัญของ PU Foam

การเลือกใช้ PU Foam ให้เหมาะสมกับงาน จำเป็นต้องพิจารณาคุณสมบัติทางเทคนิคเหล่านี้:
ความหนาแน่น (Density): เป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกถึงความแข็งแรงและคุณสมบัติการเป็นฉนวน วัดเป็นกิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (kg/m³) หรือปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต (lb/ft³):
โฟมความหนาแน่นต่ำ (Low-Density Foam): มักเป็นเซลล์เปิด มีน้ำหนักเบา นุ่ม ใช้สำหรับฉนวนกันเสียง หรือเบาะนั่ง (เช่น 8-30 kg/m³)
โฟมความหนาแน่นปานกลาง (Medium-Density Foam): อาจเป็นได้ทั้งเซลล์เปิดหรือเซลล์ปิด มีสมดุลระหว่างการเป็นฉนวนและความแข็งแรง (เช่น 30-45 kg/m³)
โฟมความหนาแน่นสูง (High-Density Foam): มักเป็นเซลล์ปิด มีความแข็งแรงสูง เป็นฉนวนความร้อนดีเยี่ยม ใช้สำหรับงานโครงสร้าง หรือห้องเย็น (เช่น 45-100+ kg/m³)
ค่าสัมประสิทธิ์การนำความร้อน (Thermal Conductivity, k-value หรือ λ-value): ค่านี้ยิ่งต่ำ ยิ่งเป็นฉนวนความร้อนที่ดีเยี่ยม วัดเป็นวัตต์ต่อเมตร-เคลวิน (W/(m·K)) หรือ BTU-นิ้วต่อตารางฟุต-ชั่วโมง-ฟาเรนไฮต์ (BTU·in/(hr·ft²·°F)):
PU Foam มีค่า k-value ต่ำมาก โดยเฉพาะชนิดเซลล์ปิด (ประมาณ 0.020 – 0.030 W/(m·K)) ซึ่งทำให้เหนือกว่าฉนวนประเภทอื่นหลายชนิด
ค่าความต้านทานความร้อน (Thermal Resistance, R-value): ค่านี้ยิ่งสูง ยิ่งเป็นฉนวนความร้อนที่ดีเยี่ยม คำนวณจากความหนาหารด้วยค่า k-value (R = Thickness / k) หรือระบุเป็นหน่วย ft²·hr·°F/BTU
การดูดซึมน้ำ (Water Absorption): ความสามารถในการดูดซับน้ำ โฟมเซลล์ปิดจะมีการดูดซึมน้ำต่ำมาก ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการป้องกันความชื้น
การซึมผ่านของไอน้ำ (Water Vapor Permeance): ความสามารถในการให้ไอน้ำผ่าน โฟมเซลล์ปิดจะมีการซึมผ่านของไอน้ำต่ำ
ความทนทานต่ออุณหภูมิ (Temperature Resistance): ช่วงอุณหภูมิที่โฟมสามารถคงสภาพและคุณสมบัติได้ โดยทั่วไป PU Foam สามารถใช้งานได้ในช่วง -40°C ถึง +100°C (หรือสูงกว่าเล็กน้อยสำหรับบางสูตร)
ความแข็งแรงเชิงกล (Mechanical Strength):
ความต้านทานแรงกด (Compressive Strength): ความสามารถในการทนทานต่อแรงกด โดยไม่ยุบตัวหรือเสียหาย (สำคัญสำหรับโฟมแข็ง)
ความต้านทานแรงดึง (Tensile Strength): ความสามารถในการทนทานต่อแรงดึง
ความยืดหยุ่น (Flexibility/Elongation): ความสามารถในการยืดหยุ่นและคืนตัว (สำคัญสำหรับโฟมนุ่ม)
การหน่วงการติดไฟ (Fire Retardancy): การเติมสารหน่วงการติดไฟช่วยเพิ่มความปลอดภัย โดยจะมีการจัดประเภทตามมาตรฐานการทดสอบการลามไฟ เช่น Class 1, Class A
อายุการใช้งาน (Service Life): PU Foam ที่ติดตั้งอย่างถูกต้องสามารถมีอายุการใช้งานยาวนานเท่ากับอายุของอาคารหรือโครงสร้างที่มันถูกติดตั้ง

ประเภทของ PU Foam และการใช้งาน

PU Foam สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามโครงสร้างเซลล์และความแข็ง โดยประเภทที่พบบ่อยและมีการใช้งานอย่างกว้างขวาง ได้แก่:

1. PU Foam แบบเซลล์ปิด (Closed-Cell PU Foam)

คุณสมบัติ:
มีโครงสร้างเซลล์ที่ปิดสนิท ไม่เชื่อมต่อกัน ทำให้โมเลกุลอากาศถูกกักเก็บอยู่ภายในเซลล์
มีความหนาแน่นสูงกว่า PU Foam แบบเซลล์เปิด
มีคุณสมบัติเป็นฉนวนความร้อนดีเยี่ยม เนื่องจากอากาศที่ถูกกักเก็บไว้ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
กันน้ำและกันความชื้นได้ดีมาก ไม่ดูดซับน้ำ
มีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกดได้ดี
มักใช้ในการฉีดพ่น (Spray Foam) หรือผลิตเป็นแผ่นแข็ง (Rigid Board)
การใช้งาน:
งานก่อสร้าง:
ฉนวนกันความร้อนหลังคา ผนัง: ใช้ฉีดพ่นใต้หลังคา ผนัง เพื่อป้องกันความร้อนเข้าสู่ภายในอาคาร ช่วยประหยัดพลังงานจากการลดการใช้เครื่องปรับอากาศ
ห้องเย็น, ห้องแช่แข็ง: เป็นฉนวนสำคัญในระบบห้องเย็น เพื่อรักษาอุณหภูมิต่ำ
ฉนวนท่อ: หุ้มท่อน้ำร้อน ท่อน้ำเย็น ท่อส่งลม เพื่อลดการสูญเสียพลังงาน
อุดรอยรั่ว, ช่องว่าง: ใช้สำหรับอุดรอยแตก รอยแยก หรือช่องว่างบริเวณประตู หน้าต่าง เพื่อป้องกันน้ำ อากาศ และเสียง
อุตสาหกรรมยานยนต์: ใช้เป็นวัสดุฉนวนกันเสียงและกันความร้อนในรถยนต์
เครื่องใช้ไฟฟ้า: ใช้เป็นฉนวนในตู้เย็น ตู้แช่แข็ง เครื่องปรับอากาศ
การบรรจุภัณฑ์: ใช้เป็นวัสดุกันกระแทกสำหรับสินค้าที่เปราะบาง
เรือและยานพาหนะทางน้ำ: ใช้เป็นวัสดุลอยน้ำหรือเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างเรือ
Keyword สำคัญ: PU Foam เซลล์ปิด, Closed-cell PU Foam, ฉนวนหลังคา, ฉนวนผนัง, ห้องเย็น, อุดรอยรั่ว, กันน้ำ, งานก่อสร้าง, ยานยนต์

2. PU Foam แบบเซลล์เปิด (Open-Cell PU Foam)

คุณสมบัติ:
มีโครงสร้างเซลล์ที่เชื่อมต่อถึงกัน อากาศสามารถไหลผ่านได้
มีความหนาแน่นต่ำกว่า PU Foam แบบเซลล์ปิด
มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันเสียงได้ดีเยี่ยม เนื่องจากโครงสร้างเซลล์ช่วยดูดซับคลื่นเสียง
มีความยืดหยุ่นสูง คืนตัวได้ดี
ไม่กันน้ำและดูดซับน้ำได้ดีกว่าแบบเซลล์ปิด
มักใช้ในการฉีดพ่น (Spray Foam) หรือผลิตเป็นแผ่นนุ่ม (Flexible Foam)
การใช้งาน:
งานก่อสร้าง:
ฉนวนกันเสียง: ใช้ในสตูดิโอ ห้องประชุม โรงภาพยนตร์ หรือพื้นที่ที่ต้องการควบคุมเสียง
ฉนวนกันความร้อน (ในบางกรณี): แม้จะไม่ดีเท่าเซลล์ปิด แต่ก็ยังสามารถลดการถ่ายเทความร้อนได้ในระดับหนึ่ง
เฟอร์นิเจอร์: ใช้เป็นวัสดุหลักในการทำที่นอน หมอน โซฟา เบาะรองนั่ง เนื่องจากมีความนุ่มสบายและยืดหยุ่น
รองเท้า: ใช้เป็นพื้นรองเท้า เพื่อความสบายและซึมซับแรงกระแทก
อุปกรณ์กีฬา: ใช้เป็นวัสดุกันกระแทกในหมวกกันน็อค หรืออุปกรณ์ป้องกัน
บรรจุภัณฑ์: ใช้เป็นวัสดุกันกระแทกสำหรับสินค้าที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
Keyword สำคัญ: PU Foam เซลล์เปิด, Open-cell PU Foam, ฉนวนกันเสียง, ที่นอน, โซฟา, เฟอร์นิเจอร์, ดูดซับเสียง, ยืดหยุ่น

3. PU Rigid Foam (โฟมแข็ง)

คุณสมบัติ:
เป็นโฟมแบบเซลล์ปิดที่มีความแข็งแรงสูง
ทนทานต่อแรงกดและแรงกระแทกได้ดี
มีคุณสมบัติเป็นฉนวนความร้อนที่ดีเยี่ยม
มักผลิตเป็นแผ่นหรือบล็อก
การใช้งาน:
ฉนวนสำหรับอาคารและอุตสาหกรรม: แผ่นฉนวนสำเร็จรูปสำหรับผนัง หลังคา พื้น
งานโครงสร้าง: ใช้เติมเต็มในโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงและน้ำหนักเบา
การแกะสลักและขึ้นรูป: ใช้เป็นวัสดุสำหรับสร้างแบบจำลอง หรือแกะสลัก

4. PU Flexible Foam (โฟมนุ่ม)

คุณสมบัติ:
เป็นโฟมแบบเซลล์เปิดที่มีความยืดหยุ่นสูง
คืนตัวได้ดีหลังจากถูกกดทับ
ระบายอากาศได้ดี
การใช้งาน:
เครื่องนอนและเฟอร์นิเจอร์: ที่นอน หมอน โซฟา เบาะรองนั่ง
เบาะรถยนต์: เบาะนั่ง พนักพิง
ฟองน้ำ: ฟองน้ำล้างจาน ฟองน้ำสำหรับทำความสะอาด
บรรจุภัณฑ์: วัสดุกันกระแทกสำหรับสินค้าที่ต้องการความนุ่มนวล

5. PU Spray Foam (โฟมฉีดพ่น)

คุณสมบัติ:
มาในรูปแบบของเหลวสองส่วนผสม (Two-component) ที่จะทำปฏิกิริยาและขยายตัวเมื่อฉีดพ่น
สามารถฉีดพ่นได้กับพื้นผิวที่ซับซ้อน หรือมีรูปทรงไม่สม่ำเสมอ
มีทั้งแบบเซลล์เปิดและเซลล์ปิด ขึ้นอยู่กับสูตรเคมี
สามารถยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดีเยี่ยม
การใช้งาน:
งานฉนวนอาคาร: ฉีดพ่นใต้หลังคา ผนัง เพดาน เพื่อเป็นฉนวนกันความร้อนและกันเสียง
อุดช่องว่าง รอยรั่ว: ใช้สำหรับอุดรอยแตก รู หรือช่องว่างที่เข้าถึงยาก
งานซ่อมแซม: ใช้ซ่อมแซมรอยรั่วของท่อ หรือโครงสร้าง

ขั้นตอนการใช้งาน PU Foam แบบแผ่น

PU Foam แบบแผ่น มักมาในรูปแบบของ แผ่นฉนวนสำเร็จรูป (Sandwich Panel) ที่มีไส้กลางเป็น PU Foam ประกบด้วยวัสดุผิวหน้าต่างๆ เช่น เหล็กเคลือบสี (Color Bond Steel), สเตนเลส, หรืออลูมิเนียม ซึ่งทำให้ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว

การเตรียมการก่อนติดตั้ง

การออกแบบและคำนวณ:
กำหนดความหนาของแผ่น: เลือกความหนาของ แผ่น PU Foam ที่เหมาะสมกับค่า R-value หรือ ค่าฉนวนกันความร้อน ที่ต้องการ โดยพิจารณาจากอุณหภูมิภายนอกและภายในที่ต้องการควบคุม (ยิ่งหนา ยิ่งเป็นฉนวนดี)
คำนวณปริมาณ: คำนวณจำนวนแผ่นที่ต้องใช้ รวมถึงอุปกรณ์ประกอบ เช่น แผ่นครอบมุม, ตัวยึด, ซิลิโคน, หรือกาวเฉพาะ
การวางแผนโครงสร้าง: ตรวจสอบโครงสร้างที่จะติดตั้งว่ามีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรับน้ำหนักของแผ่นฉนวนและอุปกรณ์ยึดหรือไม่ หากเป็นงานผนังหรือหลังคา ควรมีโครงสร้างรองรับที่เหมาะสม (เช่น โครงเหล็ก)
การเตรียมพื้นที่:
ทำความสะอาดพื้นผิวหรือโครงสร้างที่จะติดตั้งให้ปราศจากฝุ่น คราบน้ำมัน หรือเศษวัสดุ
ตรวจสอบระดับและความได้ฉากของโครงสร้าง เพื่อให้การติดตั้งแผ่นทำได้อย่างเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ
เตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือ:
เครื่องมือตัด: เลื่อยวงเดือน หรือเลื่อยจิ๊กซอว์สำหรับตัดแผ่น (ควรใช้ใบมีดที่คมและเหมาะสมกับวัสดุผิวหน้า)
เครื่องมือยึด: สว่านไฟฟ้า, สกรู, รีเวท, หรืออุปกรณ์ยึดอื่นๆ ตามประเภทของแผ่นและโครงสร้าง
อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE): ถุงมือ, แว่นตานิรภัย, หน้ากากกันฝุ่น (หากมีการตัดแผ่น), รองเท้าเซฟตี้
อุปกรณ์เสริม: ซิลิโคน หรือวัสดุยาแนวรอยต่อ, แผ่นครอบมุม, ค้อนยาง, ระดับน้ำ, ตลับเมตร

ขั้นตอนการติดตั้ง PU Foam แบบแผ่น

การยกและวางตำแหน่งแผ่น:
ยก แผ่น PU Foam ขึ้นติดตั้งอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันความเสียหายที่ผิวหน้าหรือขอบแผ่น
เริ่มวางตำแหน่งแผ่นแรกจากมุม หรือจุดอ้างอิงที่กำหนดไว้ โดยตรวจสอบให้ได้ระดับและแนวที่ถูกต้อง
ในกรณีที่ต้องติดตั้งบนหลังคา หรือผนังสูง ควรมีระบบรองรับ หรือนั่งร้านที่ปลอดภัย
การยึดแผ่นเข้ากับโครงสร้าง:
ยึดแผ่นเข้ากับโครงสร้างรองรับด้วยสกรู, รีเวท หรือตัวยึดที่เหมาะสม โดยเว้นระยะห่างตามคำแนะนำของผู้ผลิต
สำหรับ แผ่นฉนวนสำเร็จรูป มักจะมีระบบเข้าลิ้น (Tongue and Groove) หรือ Joint System ที่ออกแบบมาเพื่อให้แผ่นประกบกันได้สนิท ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกันความร้อนและลดการรั่วไหล
ยึดแผ่นถัดไปให้เข้าลิ้นกับแผ่นแรกอย่างแน่นหนา ตรวจสอบแนวและระดับให้ตรงกันตลอด
การตัดแต่งและปรับแก้:
หากจำเป็นต้องมีการตัดแผ่นเพื่อปรับขนาด หรือทำช่องเปิดสำหรับประตู หน้าต่าง หรือช่องลม ให้ใช้เครื่องมือตัดที่เหมาะสม โดยวัดขนาดและทำเครื่องหมายให้แม่นยำ
ระมัดระวังไม่ให้เกิดความเสียหายกับไส้โฟม หรือผิวหน้าแผ่นมากเกินไป
การเก็บรายละเอียดรอยต่อ:
บริเวณรอยต่อระหว่างแผ่น หรือรอยต่อกับโครงสร้างอื่นๆ ควรมีการยาแนวด้วย ซิลิโคน หรือ วัสดุยาแนว ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการรั่วไหลของอากาศ ความชื้น และเพิ่มประสิทธิภาพของฉนวน
ติดตั้ง แผ่นครอบมุม หรือ แผ่นแฟลชชิ่ง (Flashing) บริเวณมุมอาคาร ขอบประตู หน้าต่าง หรือบริเวณรอยต่ออื่นๆ เพื่อความสวยงาม และช่วยป้องกันน้ำเข้า
การตรวจสอบหลังการติดตั้ง:
ตรวจสอบรอยต่อและจุดยึดทั้งหมดว่าแน่นหนาและไม่มีช่องว่าง
ทำความสะอาดเศษวัสดุ และคราบสกปรกที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการติดตั้ง

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม

การป้องกันแสงแดด/รังสียูวี: แม้ว่า PU Foam แบบแผ่น มักจะมีผิวหน้าเป็นโลหะที่ช่วยป้องกันรังสียูวีได้อยู่แล้ว แต่ในบางกรณีที่ไส้โฟมอาจสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง (เช่น ขอบแผ่นที่ไม่ได้ปิดด้วยแผ่นครอบ) ควรพิจารณาการทา สารเคลือบป้องกันรังสียูวี เพิ่มเติม
การป้องกันความเสียหายทางกายภาพ: แผ่น PU Foam ควรได้รับการปกป้องจากแรงกระแทก หรือการเจาะทะลุ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของฉนวนลดลง
การระบายอากาศ: แม้จะเป็นฉนวนที่ดีเยี่ยม แต่การออกแบบระบบระบายอากาศภายในอาคารก็ยังคงมีความสำคัญ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและลดความอับชื้น

แผ่น PU Foam สีเหลืองอ่อนขนาดใหญ่ วางซ้อนกันเป็นตั้งสูงในโรงงาน แสดงถึงการผลิตจำนวนมากและความพร้อมสำหรับนำไปใช้เป็นฉนวนกันความร้อนและเสียงในโครงการก่อสร้างและอุตสาหกรรม.

ทำไม PU Foam จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด?

U Foam เป็นวัสดุอเนกประสงค์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นมากมาย ทั้งในด้านฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันเสียง การเติมเต็มช่องว่าง และการเป็นวัสดุกันกระแทก ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและความสามารถในการปรับแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภท ทำให้ PU Foam เป็นที่นิยมและถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง ยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า การเลือกใช้ PU Foam ที่เหมาะสมกับงาน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน และยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างหรือผลิตภัณฑ์ได้อย่างยั่งยืน

ฉนวน PU foam ไร้รอยต่อติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญของ เอ.ที.คอน อินซูเลชั่น จำกัด มั่นใจได้ถึงการปิดผนึกที่แน่นหนาและลดการใช้พลังงานในโรงงาน

EPS Foam Block

ข้อดีและข้อจำกัดของ PU Foam

เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองพิจารณาทั้งข้อดีและข้อจำกัดของ PU Foam ครับ:

ข้อดี (Advantages)

ประสิทธิภาพฉนวนสูง: เป็นฉนวนกันความร้อนและกันเสียงที่ดีเยี่ยมที่สุดในบรรดาวัสดุฉนวนทั่วไป ช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมาก
น้ำหนักเบา: ไม่เพิ่มภาระโครงสร้าง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง
ยึดเกาะดีเยี่ยม: สามารถยึดเกาะกับพื้นผิวได้หลากหลายประเภท เช่น คอนกรีต โลหะ ไม้ โดยไม่ต้องใช้ตัวยึดเพิ่มเติม
ปิดรอยรั่วได้สมบูรณ์: ด้วยคุณสมบัติการขยายตัว ทำให้สามารถเติมเต็มช่องว่าง ซอกมุม และรอยแตกได้โดยไม่มีช่องว่างเหลือ
กันน้ำและกันความชื้น: โฟมเซลล์ปิดไม่ดูดซับน้ำและป้องกันการซึมผ่านของไอน้ำ
ทนทานต่อสารเคมี: ทนทานต่อกรด ด่าง และสารเคมีบางชนิด
อายุการใช้งานยาวนาน: เมื่อติดตั้งถูกต้องและได้รับการป้องกันจากแสงแดด สามารถมีอายุการใช้งานได้หลายสิบปี
ลดการเกิดเชื้อราและแมลง: โฟมเป็นวัสดุอนินทรีย์ ไม่เป็นแหล่งอาหารของเชื้อรา ปลวก หรือแมลง
ติดตั้งรวดเร็ว: การฉีดพ่นสามารถทำได้รวดเร็ว ครอบคลุมพื้นที่กว้าง

ข้อจำกัด (Limitations)

ไวต่อรังสียูวี: PU Foam จะเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง จำเป็นต้องมีการทา สารเคลือบป้องกันรังสียูวี (เช่น สีอะคริลิก หรือวัสดุกันซึม) เพื่อยืดอายุการใช้งาน
ความต้องการการระบายอากาศระหว่างการติดตั้ง: การฉีดพ่น PU Foam จะเกิดไอระเหยที่อาจเป็นอันตรายได้ ผู้ติดตั้งจำเป็นต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) และทำงานในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศเพียงพอ
ราคา: อาจมีราคาสูงกว่าฉนวนบางประเภทในบางกรณี แต่ประสิทธิภาพที่ได้ก็สูงกว่าเช่นกัน
การกำจัด: โฟมที่แข็งตัวแล้วค่อนข้างยากต่อการกำจัด หากต้องการรื้อถอนในอนาคต
ความไวไฟ (ในระดับหนึ่ง): แม้จะมีการเติมสารหน่วงการติดไฟ แต่ PU Foam ก็ยังเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ หากสัมผัสกับความร้อนสูงมากเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม โฟมจะค่อยๆ ไหม้และไม่ลามไฟอย่างรวดเร็ว (ขึ้นอยู่กับสูตรและการทดสอบ)
ความแม่นยำในการฉีดพ่น: การฉีดพ่นต้องใช้ความชำนาญ เพื่อให้ได้ความหนาและคุณสมบัติที่สม่ำเสมอ

คุณสมบัติเด่นของ PU Foam

เป็นฉนวนความร้อนดีเยี่ยม

: มีค่าสัมประสิทธิ์การนำความร้อน (k-value) ต่ำมาก จึงเป็นวัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เป็นฉนวนกันเสียง

: สามารถดูดซับและลดการส่งผ่านของเสียงได้ดี

น้ำหนักเบา

: เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการลดภาระโครงสร้าง

ยึดเกาะดีเยี่ยม

: สามารถยึดเกาะกับพื้นผิวได้หลากหลายประเภท เช่น โลหะ คอนกรีต ไม้

กันน้ำและกันความชื้น

: โฟมชนิดเซลล์ปิด (Closed-cell) มีคุณสมบัติกันน้ำได้ดี ป้องกันการซึมผ่านของน้ำและความชื้น

ทนทานต่อสารเคมี

: ทนทานต่อกรด ด่าง และสารเคมีบางชนิด

ขึ้นรูปได้หลากหลาย

: สามารถฉีดพ่น หล่อ หรือผลิตเป็นแผ่นได้ตามความต้องการ

เติมเต็มช่องว่างได้ดี

: เนื่องจากมีคุณสมบัติขยายตัว จึงสามารถเติมเต็มช่องว่าง ซอกมุม และรอยรั่วต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์

PU Foam ป้องกันเสียง เก็บความเย็น ปกป้องทุกสิ่งที่คุณห่วงใย

PU foam นวัตกรรมใหม่ของ เอ.ที.คอน อินซูเลชั่น จำกัด สำหรับฉนวนท่อและท่อลม ป้องกันการสูญเสียความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ

การใช้งาน PU Foam ในอุตสาหกรรมต่างๆ

PU Foam เป็นวัสดุอเนกประสงค์ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่ต้องการ ฉนวนกันความร้อนคุณภาพสูง และคุณสมบัติในการ กันน้ำ กันความชื้น ได้ดีเยี่ยม

อุตสาหกรรมก่อสร้างและอาคาร (Building & Construction)

ฉนวนกันความร้อนและเสียงในอาคาร: เป็นการใช้งานหลักที่สำคัญที่สุด พียูโฟม ชนิดเซลล์ปิดถูกฉีดพ่นใต้ หลังคาเหล็กเมทัลชีท ผนัง เพดาน หรือพื้น ช่วยลดการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกสู่ภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ และลดค่าไฟฟ้าได้มหาศาล ประหยัดพลังงาน ได้จริง
ห้องเย็นและห้องแช่แข็ง: เป็นวัสดุหลักในการสร้างผนังและหลังคาของ ห้องเย็น และ ห้องแช่แข็ง เนื่องจากมีค่า k-value ต่ำมาก ป้องกันการรั่วไหลของความเย็นได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้รักษาอุณหภูมิต่ำได้สม่ำเสมอ
แผ่นฉนวนสำเร็จรูป (Sandwich Panels): PU Foam ถูกใช้เป็นแกนกลางของ แผ่นฉนวนสำเร็จรูป ที่มีผิวหน้าเป็นโลหะ (เช่น เหล็กเคลือบสี) เหมาะสำหรับผนังและหลังคาของโรงงาน โกดัง และอาคารสำเร็จรูป
อุดรอยรั่วและช่องว่าง: ใช้ สเปรย์โฟมอุดรอยรั่ว เพื่อปิดช่องว่างรอบวงกบประตู หน้าต่าง รอยแตกของผนัง ท่อ หรือรอยต่อต่างๆ เพื่อป้องกันน้ำ อากาศ เสียง และแมลงเข้าสู่ภายใน
งานกันซึม: สามารถใช้เป็นวัสดุกันซึมสำหรับหลังคา หรือดาดฟ้าที่ต้องการการปกป้องจากน้ำ
ฉนวนท่อ: หุ้มท่อส่งน้ำร้อน น้ำเย็น หรือท่อลม เพื่อลดการสูญเสียพลังงาน และป้องกันการเกิดหยดน้ำ
การปรับปรุงบ้าน (Home Improvement): สเปรย์โฟม DIY เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่ายสำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการปรับปรุงฉนวนกันความร้อน หรืออุดรอยรั่วด้วยตัวเอง

อุตสาหกรรมยานยนต์และขนส่ง (Automotive & Transportation)

ฉนวนกันเสียงและกันความร้อน: ใช้ฉีดพ่นในตัวถังรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอกและเครื่องยนต์ รวมถึงป้องกันความร้อนเข้าสู่ห้องโดยสาร
โครงสร้างเสริมความแข็งแรง: ใช้ฉีดเติมในโพรงโครงสร้างต่างๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของตัวถังและลดน้ำหนัก
เบาะนั่งและส่วนประกอบภายใน: โฟมนุ่ม (Flexible Foam) ถูกใช้ทำเบาะนั่ง พนักพิงศีรษะ และแผงประตู เพื่อความสบายและความปลอดภัยของผู้โดยสาร

อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า (Appliances)

ฉนวนในตู้เย็นและตู้แช่แข็ง: เป็นฉนวนหลักในผนังและประตูของตู้เย็น ตู้แช่แข็ง และตู้กดน้ำ เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในและลดการใช้พลังงาน
ฉนวนในเครื่องปรับอากาศ: ใช้เป็นส่วนประกอบของฉนวนภายในเครื่องปรับอากาศ

อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องนอน (Furniture & Bedding)

ที่นอนและหมอน: โฟมความหนาแน่นต่างๆ ถูกนำมาใช้ผลิตที่นอนและหมอน ที่มีคุณสมบัติรองรับสรีระ ยืดหยุ่น และระบายอากาศได้ดี เช่น Memory Foam ซึ่งเป็น PU Foam ชนิดพิเศษ
โซฟาและเก้าอี้: ใช้เป็นแกนกลางสำหรับเบาะนั่ง พนักพิง และที่เท้าแขน เพื่อความนุ่มสบายและคงรูป

อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ (Packaging)

วัสดุกันกระแทก: โฟมที่มีความหนาแน่นและยืดหยุ่นต่างกันถูกใช้เป็นวัสดุกันกระแทกสำหรับบรรจุสินค้าที่เปราะบาง เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แก้ว หรือศิลปะ เพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่ง
การขึ้นรูปเพื่อรองรับสินค้า: สามารถหล่อโฟมให้เป็นรูปทรงเฉพาะเพื่อรองรับสินค้าแต่ละชิ้นได้อย่างพอดี

อุตสาหกรรมรองเท้า (Footwear)

พื้นรองเท้า: ใช้ทำพื้นรองเท้าชั้นกลาง (Midsole) และพื้นรองเท้าด้านใน (Insole) เพื่อรองรับแรงกระแทก ให้ความสบาย และน้ำหนักเบา

อุตสาหกรรมกีฬาและอุปกรณ์ป้องกัน (Sports & Protective Gear)

อุปกรณ์ป้องกัน: ใช้ในหมวกกันน็อค สนับเข่า สนับศอก หรืออุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ เพื่อดูดซับแรงกระแทกและลดการบาดเจ็บ
อุปกรณ์กีฬา: ใช้ในลูกบอล หรืออุปกรณ์ที่ต้องการคุณสมบัติยืดหยุ่นและเด้งตัว

บทความ

ขอรายละเอียดเพิ่มเติม

ขอใบเสนอราคา

สายด่วนงานโฟม โทร. 062-336-9655, 062-585-4499, 082-440-2525