การใช้งานโฟม eps
คำว่า “EPS” มีความหมายที่หลากหลายและแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้งาน เพื่อให้ข้อมูลที่ละเอียดและครบถ้วนที่สุด จะอธิบายการใช้งาน EPS ในหลาย ๆ แบบ พร้อมเทคนิคและวิธีการที่ใช้งานได้จริง โฟม EPS คือวัสดุที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกพอลิสไตรีน ผ่านกระบวนการขยายตัวด้วยไอน้ำร้อน จนเกิดเป็นโครงสร้างเซลล์ปิดที่มีอากาศอยู่ภายในจำนวนมาก ทำให้มีคุณสมบัติโดดเด่นคือ น้ำหนักเบามาก, เป็นฉนวนความร้อนและเสียงที่ดีเยี่ยม, สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดี, ไม่ดูดซับน้ำ, และสามารถขึ้นรูปได้หลากหลาย ทำให้เป็นวัสดุอเนกประสงค์ที่นิยมใช้แพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม
การใช้งานโฟม EPS ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ (Packaging Industry)
วัตถุประสงค์หลัก:
ป้องกันสินค้าจากการกระแทก ลดความเสียหายระหว่างการขนส่ง
รักษาอุณหภูมิของสินค้า (โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการความเย็นหรือความร้อน)
ประเภทของโฟม EPS ที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์:
โฟม EPS ขึ้นรูปเฉพาะ (Custom Molded EPS): เป็นรูปแบบที่นิยมที่สุดสำหรับสินค้าที่ต้องการการป้องกันสูงสุด โดยโฟมจะถูกฉีดขึ้นรูปในแม่พิมพ์ให้มีรูปร่างที่พอดีกับสินค้าแต่ละชนิด โอบรับสินค้าได้รอบด้าน
โฟม EPS แบบแผ่นหรือบล็อกตัด (Cut Sheets/Blocks): โฟมที่มาในรูปแบบแผ่นหรือบล็อกขนาดใหญ่ แล้วนำมาตัด, เจาะ, หรือเซาะร่องตามต้องการ เพื่อใช้เป็นชิ้นรองรับ, ชิ้นกั้น, หรือชิ้นมุมกันกระแทก
เทคนิคการเลือกและการออกแบบ:
ประเมินความเปราะบางและน้ำหนักของสินค้า: สินค้าเปราะบางสูง (เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, อิเล็กทรอนิกส์, แก้ว, เซรามิก, อุปกรณ์ทางการแพทย์): ควรเลือกใช้โฟม EPS ที่มีความหนาแน่นเหมาะสม (นิยมใช้ในช่วง 15-25 kg/m³) และออกแบบให้ขึ้นรูปโอบรับสินค้าได้รอบด้าน (custom molded) เพื่อกระจายแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และป้องกันการเคลื่อนที่ของสินค้าภายในบรรจุภัณฑ์
สินค้าทั่วไปที่ไม่เปราะบางมาก (เช่น เฟอร์นิเจอร์บางชิ้น, อุปกรณ์กีฬา): อาจใช้โฟม EPS แบบแผ่นหรือบล็อก มาตัดเป็นชิ้นรองมุม, ชิ้นรองก้นกล่อง, หรือชิ้นกั้นระหว่างสินค้า เพื่อลดต้นทุนแต่ยังคงให้การป้องกันพื้นฐาน
พิจารณาเรื่องการรักษาอุณหภูมิ (Cold Chain Management): กล่องโฟม EPS (ลังโฟม) สำหรับอาหารสด/แช่แข็ง/ยา/วัคซีน: เลือกใช้กล่องโฟม EPS ที่มีผนังหนา (นิยม 2-5 ซม.) และฝาปิดสนิท เพื่อให้มีค่า R-value (ค่าต้านทานความร้อน) เพียงพอต่อระยะเวลาการขนส่ง และป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกหรือภายใน
เทคนิคการเสริมประสิทธิภาพความเย็น: ใช้ร่วมกับสารทำความเย็น เช่น น้ำแข็ง, เจลเก็บความเย็น (Ice Pack), หรือน้ำแข็งแห้ง วางแผนการจัดวางสารทำความเย็นให้กระจายความเย็นทั่วถึงสินค้า (นิยมวางทั้งด้านล่างและด้านบนของสินค้า) และลดช่องว่างภายในกล่องให้มากที่สุด
วิธีการใช้งาน:
การบรรจุสินค้าทั่วไป: วางสินค้าลงในช่องหรือส่วนที่ออกแบบมาพอดีของโฟม EPS ที่ขึ้นรูปไว้ หรือจัดวางชิ้นโฟมที่ตัดแต่งแล้วรอบสินค้า จากนั้นปิดกล่องบรรจุภัณฑ์ภายนอกให้เรียบร้อย
การบรรจุสินค้าควบคุมอุณหภูมิ: ตรวจสอบอุณหภูมิของสินค้าก่อนบรรจุ วางสารทำความเย็น (น้ำแข็ง/เจลเย็น/น้ำแข็งแห้ง) ในตำแหน่งที่เหมาะสม จากนั้นปิดฝากล่องโฟม EPS ให้สนิท อาจใช้เทปกาวปิดรอยต่อบริเวณฝาและขอบกล่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บความเย็นสูงสุด

Add a compelling title for your section to engage your audience.
Use this paragraph section to get your website visitors to know you. Consider writing about you or your organization, the products or services you offer, or why you exist. Keep a consistent communication style.

Add a descriptive title for the column.
การใช้งานโฟม EPS ในงานก่อสร้าง (Construction Industry)
วัตถุประสงค์หลัก:
เป็นฉนวนกันความร้อนและเสียง
ลดน้ำหนักโครงสร้าง (Lightweight Fill)
เป็นส่วนประกอบในวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูป (เช่น Sandwich Panels)
ประเภทของโฟม EPS ที่ใช้ในงานก่อสร้าง:
แผ่นฉนวนโฟม EPS (EPS Insulation Board): แผ่นโฟม EPS ตัดตามขนาดและหนาแน่นต่างๆ ใช้เป็นฉนวนโดยตรง
บล็อกโฟม EPS (EPS Block/Geofoam): บล็อกขนาดใหญ่พิเศษ ใช้เป็นวัสดุถมเบาในงานวิศวกรรมโยธา
แกนกลางใน Sandwich Panel: โฟม EPS ถูกนำไปประกบกับวัสดุผิวอื่น (เช่น แผ่นเมทัลชีท, แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์, แผ่นพลาสติก) เพื่อสร้างผนัง, หลังคา, หรือพื้นสำเร็จรูป
ส่วนผสมในวัสดุก่อสร้าง: เช่น อิฐมวลเบาผสมโฟม (Foamed Concrete Blocks) หรือคอนกรีตมวลเบา (Lightweight Concrete)
เทคนิคการใช้งานเป็นฉนวน (Insulation):
การติดตั้งใต้หลังคา/บนฝ้าเพดาน: วางแผ่นฉนวนโฟม EPS เหนือฝ้าเพดาน หรือติดใต้แปหลังคาโดยใช้ฉนวนที่มีการเคลือบฟอยล์สะท้อนความร้อน (Film-faced EPS) เพื่อสกัดกั้นความร้อนจากแสงแดดไม่ให้ลงสู่ตัวอาคารโดยตรง ช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องอย่างเห็นได้ชัดและประหยัดพลังงานเครื่องปรับอากาศ
การติดตั้งในผนัง: ผนังเบา: สอดแผ่นฉนวนโฟม EPS เข้าไปในช่องว่างระหว่างโครงคร่าวของผนังเบา (เช่น ผนังยิปซัม, ผนังซีเมนต์บอร์ด) เพื่อลดการถ่ายเทความร้อนและเสียงระหว่างห้องหรือจากภายนอกสู่ภายใน
ผนังสำเร็จรูป (Sandwich Panel): ใช้แผ่น Sandwich Panel ที่มีโฟม EPS เป็นแกนกลาง สำหรับอาคารโรงงาน, โกดัง, ห้องเย็น, คลีนรูม ที่ต้องการความรวดเร็วในการก่อสร้างและคุณสมบัติฉนวนที่ดีเยี่ยม
การติดตั้งบนพื้น: วางแผ่นฉนวนโฟม EPS ใต้พื้นคอนกรีต หรือในโครงสร้างพื้น เพื่อเป็นฉนวนกันความร้อนและความชื้นจากพื้นดิน ลดการเกิดเชื้อราและช่วยให้พื้นไม่เย็นจัด
การเลือกความหนาแน่นและหนาของฉนวน: สำหรับงานฉนวนอาคารทั่วไป ควรเลือกโฟม EPS ที่มีความหนาแน่นปานกลาง (เช่น 15-20 kg/m³) และมีความหนาเพียงพอเพื่อให้ได้ค่า R-value (ค่าต้านทานความร้อน) ที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ หากต้องการเน้นฉนวนกันเสียง อาจเลือกที่ความหนาแน่นสูงขึ้นเล็กน้อย
วิธีการติดตั้ง: การยึดด้วยกาว: ใช้กาวประเภทที่เหมาะสมกับโฟม EPS (กาวที่ไม่ทำปฏิกิริยาละลายโฟม เช่น กาวสูตรน้ำ หรือกาวพียูสำหรับโฟม) เพื่อยึดแผ่นฉนวนเข้ากับพื้นผิว (เช่น คอนกรีต, ไม้, ผนังปูน)
การยึดด้วยกลไก: ใช้สกรู, พุก, หรือตะปูตอกโฟม สำหรับการยึดแผ่นฉนวนเข้ากับโครงสร้างโดยตรง โดยเฉพาะในงานหลังคาหรือผนังภายนอก
การปิดรอยต่อ: ปิดรอยต่อระหว่างแผ่นฉนวนด้วยเทปกาวอะลูมิเนียมฟอยล์ หรือโฟมพียูอัดกระป๋อง (PU Foam Sealant) เพื่อป้องกันการรั่วไหลของความร้อนและอากาศผ่านรอยต่อ ซึ่งจะลดประสิทธิภาพของฉนวน
เทคนิคการใช้งานเป็นวัสดุถมเบา (Lightweight Fill/Geofoam):
วัตถุประสงค์: ลดน้ำหนักบรรทุกบนโครงสร้างหรือชั้นดินอ่อน ลดการทรุดตัวของดิน ใช้ทดแทนดินในการถมที่
การใช้งาน: ถมคันทางถนน/สะพาน: ในพื้นที่ดินอ่อน หรือพื้นที่ที่ต้องการลดน้ำหนักโครงสร้างถนน/สะพาน เพื่อลดการทรุดตัวของดินและประหยัดเวลาในการก่อสร้าง บล็อกโฟม EPS ขนาดใหญ่ (Geofoam) จะถูกวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ โดยมีวิศวกรโยธาออกแบบโครงสร้าง
ถมปรับระดับ/ฐานราก: ใช้บล็อกโฟม EPS สำหรับการถมปรับระดับพื้นที่ เพื่อลดภาระน้ำหนักบนโครงสร้างเดิม หรือใช้เป็นฐานรากชั่วคราวในพื้นที่ที่มีปัญหาดินอ่อน
วิธีการ: วางบล็อกโฟม EPS บนชั้นดินหรือโครงสร้างที่เตรียมไว้ อาจมีแผ่นใยสังเคราะห์ (Geotextile) หรือแผ่นพลาสติกรองรับ จากนั้นอาจเทคอนกรีตทับหน้า หรือวางวัสดุถนนตามมาตรฐานงานโยธา สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาวิศวกรโยธาในการออกแบบและติดตั้งอย่างละเอียด
การใช้งานเป็นส่วนผสมในวัสดุก่อสร้าง:
อิฐมวลเบาผสมโฟม/คอนกรีตมวลเบา: เม็ดโฟม EPS เม็ดเล็กๆ สามารถนำมาผสมกับปูนซีเมนต์หรือวัสดุอื่นๆ เพื่อผลิตเป็นอิฐบล็อกน้ำหนักเบา (เช่น Lightweight Concrete Blocks) หรือคอนกรีตมวลเบา ซึ่งช่วยให้ก่อสร้างได้รวดเร็วขึ้น มีน้ำหนักเบา และเป็นฉนวนในตัว
การใช้งานโฟม EPS ในงานศิลปะ, ประดิษฐ์, และตกแต่ง
วัตถุประสงค์หลัก: สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ, โมเดล, หุ่นจำลอง, ฉากตกแต่ง, ดิสเพลย์โชว์สินค้า
คุณสมบัติที่เอื้อต่อการใช้งาน: น้ำหนักเบา, ตัดแต่งและขึ้นรูปได้ง่าย, มีพื้นผิวที่สามารถทาสีหรือเคลือบผิวได้
ประเภทของโฟม EPS ที่ใช้: ส่วนใหญ่มักเป็นโฟม EPS แบบแผ่นหรือบล็อกขนาดต่างๆ ขึ้นอยู่กับขนาดของชิ้นงาน
เทคนิคและวิธีการใช้งาน:
การตัดแต่ง: เครื่องตัดโฟมลวดร้อน (Hot Wire Cutter): เป็นเทคนิคที่แนะนำที่สุด สำหรับการตัดโฟม EPS ให้ได้รอยตัดที่เรียบเนียน สะอาด และแม่นยำ สามารถตัดเป็นรูปทรงโค้งหรือซับซ้อนได้ง่ายกว่า มีทั้งแบบมือถือและแบบตั้งโต๊ะ
มีดคัตเตอร์/เลื่อย: ใช้สำหรับงานตัดแบบหยาบ หรือการตัดด้วยมือทั่วไป ควรใช้ใบมีดที่คมและยาวพอสมควร เพื่อให้ได้รอยตัดที่เรียบ (อาจต้องใช้หลายครั้ง)
การขึ้นรูป/ปั้น: สามารถขูด, แกะสลัก, หรือบดโฟม EPS เพื่อสร้างรูปทรงตามต้องการได้
การติดกาว: ใช้กาวสำหรับโฟม EPS โดยเฉพาะ (เช่น กาวสูตรน้ำ, กาวพียูสำหรับโฟม, กาวซิลิโคน) หลีกเลี่ยงกาวที่มีสารทำละลายรุนแรง เช่น ทินเนอร์, กาวร้อน เพราะจะละลายโฟม
การทาสี/เคลือบผิว: รองพื้น: ก่อนทาสี ควรทารองพื้น (primer) สำหรับโฟม EPS โดยเฉพาะ เพื่อให้สีติดทนและไม่ซึมเข้าเนื้อโฟม
สีที่ใช้: เลือกใช้สีอะคริลิก หรือสีน้ำ ที่ไม่มีส่วนผสมของสารทำละลายที่ทำลายโฟม
การเคลือบผิว: อาจใช้ปูนปลาสเตอร์, ปูนซีเมนต์, ยิปซัม, หรือสารเคลือบผิวชนิดพิเศษ เพื่อสร้างพื้นผิวที่แข็งแรงขึ้น และสามารถทาสีทับได้หลากหลาย
การใช้งานโฟม EPS ในอุตสาหกรรมเกษตร
วัตถุประสงค์หลัก: ใช้เป็นวัสดุรองรับการเจริญเติบโตของพืช หรือเป็นภาชนะบรรจุผลผลิต
ประเภทของโฟม EPS ที่ใช้: ถาดเพาะกล้าขึ้นรูป, แผ่นโฟมสำหรับไฮโดรโปนิกส์, กล่องบรรจุผลผลิต
เทคนิคและวิธีการใช้งาน:
ถาดเพาะกล้า: เลือกถาดโฟม EPS ที่มีขนาดช่องและจำนวนช่องที่เหมาะสมกับชนิดพืชที่ต้องการเพาะกล้า มีน้ำหนักเบาและเคลื่อนย้ายง่าย
แผ่นลอยน้ำสำหรับปลูกผักไฮโดรโปนิกส์: ใช้แผ่นโฟม EPS หนาพอสมควร เจาะรูตามขนาดของถ้วยปลูก เพื่อให้รากพืชสามารถลงไปรับสารละลายธาตุอาหารได้ มีคุณสมบัติลอยน้ำได้ดีและเป็นฉนวนช่วยควบคุมอุณหภูมิของสารละลาย
กล่องบรรจุผลไม้/ผลผลิต: ใช้กล่องโฟม EPS (แบบเดียวกับบรรจุภัณฑ์) สำหรับบรรจุผัก, ผลไม้, หรือผลผลิตทางการเกษตร เพื่อรักษาความสดใหม่และป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่ง
ข้อควรระวังทั่วไปในการใช้งานโฟม EPS (สำคัญมาก!)
สารเคมี: โฟม EPS ไวต่อสารเคมีบางชนิดอย่างมาก เช่น ทินเนอร์, น้ำมันเบนซิน, อะซิโตน, กาวร้อน (Cyanoacrylate Adhesives) และสเปรย์สีบางประเภท (โดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของโซลเวนต์) สารเหล่านี้จะทำให้โฟมละลายหรือยุบตัว เทคนิคคือ ควรเลือกใช้กาว, สี, หรือสารทำละลายที่ระบุว่า “ใช้สำหรับโฟม EPS” หรือ “ไม่ทำปฏิกิริยากับโฟม” และควรทดสอบกับชิ้นโฟมเล็กๆ ก่อนใช้งานจริงเสมอ
รังสียูวี (แสงแดด): การสัมผัสแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานานจะทำให้โฟม EPS เสื่อมสภาพ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง กรอบ และเปราะบางลง เทคนิคคือ หากใช้งานภายนอกอาคาร ควรมีการเคลือบผิว, ทาสีทับ (ด้วยสีที่เข้ากับโฟม), หรือปกปิดเพื่อป้องกันรังสียูวี
ความไวไฟ: โฟม EPS ทั่วไปสามารถติดไฟได้ง่าย แม้ว่าในประเทศไทยจะมีการผลิตโฟม EPS เกรดหน่วงไฟ (Flame Retardant Grade) ซึ่งมีสารหน่วงไฟผสมอยู่ก็ตาม แต่ก็ยังคงต้องระมัดระวัง เทคนิคคือ ใช้งานห่างจากแหล่งความร้อน, เปลวไฟ, หรือประกายไฟ
ไม่ควรสูบบุหรี่ใกล้บริเวณที่มีโฟม EPS
ในงานก่อสร้างที่ต้องการความปลอดภัยจากอัคคีภัยสูง ควรเลือกใช้โฟม EPS เกรดหน่วงไฟที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน (เช่น มีใบรับรองจากสถาบันทดสอบที่เชื่อถือได้) และพิจารณาใช้วัสดุผิวปิด (เช่น แผ่นยิปซัม, ไฟเบอร์ซีเมนต์) ที่มีคุณสมบัติกันไฟด้วย
การจัดการขยะ: โฟม EPS มีปริมาตรมากแต่มีน้ำหนักน้อย การกำจัดด้วยการฝังกลบทำให้เปลืองพื้นที่ เทคนิคคือ ควรพิจารณาการนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) หากสภาพยังดี หรือส่งเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล (Recycle) ซึ่งในประเทศไทยมีโรงงานรับซื้อและรีไซเคิลโฟม EPS โดยนำไปบดอัด ลดปริมาตร และแปรรูปเป็นเม็ดพลาสติกใหม่เพื่อนำกลับไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
ขอรายละเอียดเพิ่มเติม
ขอใบเสนอราคา