เจาะลึก: กลไกการเป็นฉนวนกันความร้อนของ EPS Foam
หัวใจสำคัญที่ทำให้ EPS Foam เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดีคือ “อากาศที่ถูกกักเก็บ” ครับ
- โครงสร้างเซลล์ปิด (Closed-Cell Structure): เม็ดโฟม EPS เกิดจากการขยายตัวของเม็ดพลาสติก Polystyrene จนกลายเป็นเม็ดโฟมขนาดเล็กที่เชื่อมต่อกัน โดยแต่ละเม็ดโฟมจะภายในบรรจุอากาศไว้เป็นจำนวนมาก (ประมาณ 98% ของปริมาตรทั้งหมด) และอากาศเหล่านี้จะถูกกักเก็บอยู่ในเซลล์ที่ปิดล้อม
- การนำความร้อนของอากาศ: อากาศเป็นตัวนำความร้อนที่แย่มาก (มีค่า Thermal Conductivity ต่ำ) ยิ่งอากาศไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ (ถูกกักเก็บอยู่ในเซลล์ปิด) การถ่ายเทความร้อนผ่านการพาความร้อน (Convection) ก็จะทำได้ยากยิ่งขึ้น
- ลดการแผ่รังสีความร้อน: แม้ว่าโฟม EPS จะไม่ใช่ฉนวนสะท้อนรังสีความร้อนโดยตรงเหมือนแผ่นฟอยล์ แต่โครงสร้างเซลล์ปิดก็มีส่วนช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนภายในเนื้อวัสดุได้บ้าง
- ค่า R-Value (Thermal Resistance): เป็นค่าที่แสดงถึงความสามารถในการต้านทานการไหลของความร้อน ยิ่งค่า R-Value สูงเท่าไร วัสดุนั้นก็ยิ่งเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดีเท่านั้น โดยทั่วไปแล้ว EPS Foam จะมีค่า R-Value อยู่ที่ประมาณ 3.8-4.2 ต่อความหนา 1 นิ้ว ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ
เจาะลึก: กลไกการเป็นฉนวนกันความร้อนของ EPS Foam
เพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น การผลิต EPS Foam มีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้:
- Pre-expansion: เม็ดพลาสติก Polystyrene (PS) ที่มีสารขยายตัว (Pentane) ผสมอยู่ จะถูกนำไปให้ความร้อนด้วยไอน้ำ ทำให้เม็ดพลาสติกอ่อนตัวลงและสารขยายตัวกลายเป็นไอ ทำให้เม็ด PS พองตัวขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าตัว กลายเป็นเม็ดโฟมขนาดเล็ก (Beads)
- Conditioning: เม็ดโฟมที่ได้จะถูกนำไปพักในไซโล เพื่อให้สาร Pentane ที่เหลืออยู่ระเหยออกไป และอากาศแทรกซึมเข้าไปในเซลล์โฟม ทำให้เม็ดโฟมแข็งตัวและมีเสถียรภาพมากขึ้น
- Molding: เม็ดโฟมที่ผ่านการ Conditioning แล้ว จะถูกนำไปบรรจุลงในแม่พิมพ์ (Mould) และอัดด้วยไอน้ำอีกครั้ง ทำให้เม็ดโฟมเชื่อมติดกันเป็นเนื้อเดียวกัน เกิดเป็นแผ่นโฟมขนาดใหญ่ (Block) ตามขนาดที่ต้องการ
- Cutting: แผ่นโฟมขนาดใหญ่ที่ได้จะถูกนำไปตัดด้วยลวดร้อน (Hot Wire Cutter) ให้ได้ขนาดและความหนาที่ต้องการ เช่น เป็นแผ่นฝ้าโฟม, แผ่นฉนวน หรือชิ้นส่วนสำหรับบรรจุภัณฑ์
Add a compelling title for your section to engage your audience.
Use this paragraph section to get your website visitors to know you. Consider writing about you or your organization, the products or services you offer, or why you exist. Keep a consistent communication style.
Add a descriptive title for the column.
การแยกประเภทของฝ้าโฟม EPS อย่างละเอียด
นอกเหนือจากเกรดและความหนาแน่นแล้ว ยังสามารถแยกประเภทตามรูปแบบการใช้งานและลักษณะผลิตภัณฑ์ได้ดังนี้:
- EPS Foam Board (แผ่นโฟม EPS เปล่า)
- ลักษณะ: เป็นแผ่นโฟมสีขาวล้วน ไม่มีวัสดุอื่นเคลือบผิว
- ความหนาแน่น: มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 0.65 lb/ft³ (ประมาณ 10 kg/m³) ไปจนถึง 3.0 lb/ft³ (ประมาณ 48 kg/m³) โดยความหนาแน่นที่ 1.0 lb/ft³ (16 kg/m³) เป็นที่นิยมที่สุดสำหรับการใช้งานทั่วไป
- การใช้งาน:
- ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา: วางบนแป หรือสอดระหว่างแป มักใช้กับหลังคาเมทัลชีท
- ฉนวนผนัง: สอดในโครงผนังเบา หรือใช้ทำผนังโฟมสำเร็จรูป (Pre-fabricated Wall)
- ฉนวนพื้น: ใช้รองใต้พื้นคอนกรีต เพื่อป้องกันความร้อนจากดิน และช่วยปรับระดับพื้น
- ฉนวนในงานอุตสาหกรรม: ห้องเย็น, ตู้คอนเทนเนอร์, ถังเก็บความเย็น
- งานประดิษฐ์และงานออกแบบ: เนื่องจากน้ำหนักเบาและขึ้นรูปง่าย
- ข้อดี: ราคาถูกที่สุดในบรรดา EPS Foam แบบต่าง ๆ, น้ำหนักเบามาก, ตัดแต่งง่าย
- ข้อสังเกต: ต้องมีการป้องกันผิวหน้าจากแสงแดดและความเสียหายทางกายภาพ หากใช้เป็นฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา อาจต้องมีวัสดุปิดทับ เช่น แผ่นยิปซั่มด้านล่าง
- Gypsum Foam (แผ่นยิปซั่มฉนวนโฟม/ยิปซั่มโฟม)
- ลักษณะ: เป็นแผ่นยิปซั่มที่ถูกประกบเข้ากับแผ่นโฟม EPS ด้านหนึ่ง (หรือบางทีก็ทั้งสองด้าน) มาจากโรงงาน
- ความหนาแน่นโฟมที่ใช้: มักใช้โฟม EPS ที่ความหนาแน่น 1.0 lb/ft³ หรือ 0.8 lb/ft³
- การใช้งาน:
- ฝ้าฉาบเรียบ: ใช้แทนแผ่นยิปซั่มปกติ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติกันความร้อน
- ฝ้าทีบาร์: มีขนาดมาตรฐาน 60×60 ซม. หรือ 60×120 ซม. พร้อมขอบสำหรับวางบนโครงทีบาร์
- ข้อดี: ติดตั้งง่ายเหมือนฝ้ายิปซั่มทั่วไป, ได้ฉนวนกันความร้อนในตัว, ไม่ต้องติดตั้งฉนวนแยก, ผิวหน้าเรียบเนียนพร้อมสำหรับการฉาบ/ทาสี, ช่วยประหยัดค่าแรงและเวลา
- ข้อสังเกต: มีน้ำหนักมากกว่าแผ่นโฟมเปล่าเล็กน้อย, ราคาแพงกว่าแผ่นโฟมเปล่า
- Sandwich Panel (แผ่นผนัง/หลังคาสำเร็จรูป)
- ลักษณะ: ประกอบด้วยผิวหน้า 2 ด้าน (เช่น แผ่นเมทัลชีท, แผ่นอลูมิเนียม, แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์) ประกบกับไส้กลางที่เป็นโฟม EPS (หรืออาจเป็น PIR, PU)
- ความหนาแน่นโฟมที่ใช้: มักใช้โฟม EPS ที่ความหนาแน่นสูงกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความแข็งแรง (เช่น 1.25 lb/ft³ หรือ 1.50 lb/ft³)
- การใช้งาน:
- ผนังอาคารสำเร็จรูป: บ้านน็อคดาวน์, สำนักงานชั่วคราว, โรงงาน, ห้องเย็น
- หลังคาอาคาร: โดยเฉพาะอาคารที่ต้องการกันความร้อนสูงและติดตั้งรวดเร็ว
- ฝ้าเพดาน: โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรม, ห้องเย็น หรือห้องที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิและเสียง
- ข้อดี: แข็งแรงทนทาน, ติดตั้งรวดเร็ว, มีระบบ Interlock ทำให้เชื่อมต่อกันได้สนิท, มีผิวสำเร็จในตัว
- ข้อสังเกต: ราคาสูงกว่า EPS Foam Board และ Gypsum Foam, หากเกิดความเสียหายที่ผิวหน้า อาจซ่อมแซมยากกว่า
วิธีการใช้งานและติดตั้งฝ้าโฟม EPS อย่างละเอียด
การติดตั้งฝ้าโฟม EPS สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทของโฟมและโครงสร้างของอาคาร:
1. การติดตั้ง EPS Foam Board (แผ่นโฟมเปล่า) ใต้หลังคา
- บนแป/จันทัน (สำหรับหลังคาเมทัลชีท):
- ขั้นตอน: วางแผ่นโฟม EPS ลงบนแป (Purlin) หรือจันทัน (Rafter) ก่อนที่จะติดตั้งแผ่นเมทัลชีททับลงไป
- การยึด: อาจใช้กาวโฟมพิเศษสำหรับ EPS โดยเฉพาะ (เช่น กาว PU Foam หรือกาวเฉพาะสำหรับ EPS) ทาเป็นเส้นบนโฟม แล้ววางแผ่นเมทัลชีททับ จากนั้นยึดเมทัลชีทด้วยสกรูพร้อมแหวนยางตามปกติ สกรูจะยึดแผ่นโฟมให้อยู่กับที่ไปในตัว
- ข้อควรระวัง:
- ควรเลือกโฟม F-Grade (ไม่ลามไฟ)
- ตรวจสอบความหนาแน่นที่เหมาะสมกับแรงกดทับของช่างระหว่างติดตั้ง (แนะนำ 1.0 lb/ft³ ขึ้นไป)
- ตรวจสอบความเรียบของแป/จันทัน เพื่อให้แผ่นโฟมและเมทัลชีทวางได้สนิท
- อาจจำเป็นต้องเว้นช่องว่างเล็กน้อยระหว่างโฟมกับเมทัลชีท (Air Gap) เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น หรือใช้โฟมที่มีฟอยล์อลูมิเนียมประกบด้านบนเพื่อสะท้อนความร้อน
- สอดระหว่างแป/จันทัน:
- ขั้นตอน: ตัดแผ่นโฟมให้มีขนาดพอดีกับช่องว่างระหว่างแปหรือจันทัน แล้วสอดเข้าไปให้แน่น
- การยึด: อาจใช้กาวโฟม หรือยิงสกรูยึดกับโครงสร้างด้านข้าง
- ข้อดี: ไม่กระทบกับการติดตั้งหลังคาเดิม
- ข้อสังเกง: อาจยุ่งยากกว่าการติดตั้งบนแปก่อนมุงหลังคา
- ติดใต้แป/จันทัน (ในกรณีหลังคามุงแล้ว):
- ขั้นตอน: ยึดแผ่นโฟมจากด้านล่างของแป/จันทัน
- การยึด:
- กาว: ใช้กาวโฟมที่เหมาะสมสำหรับ EPS ทาเป็นจุดหรือเส้นบนแผ่นโฟม แล้วยกติดกับใต้แป/จันทัน กดให้แน่น
- สกรู/พุก: หากโครงสร้างเป็นไม้ สามารถยิงสกรูยึดได้โดยตรง แต่หากเป็นเหล็กหรือคอนกรีต อาจต้องใช้พุกและสกรู
- โครงคร่าว: อาจทำโครงคร่าวรองรับแผ่นโฟมจากด้านล่าง แล้วยึดแผ่นโฟมเข้ากับโครงคร่าว
- ข้อสังเกต: ต้องระมัดระวังเรื่องน้ำหนักของโฟมไม่ให้หลุดร่วง
2. การติดตั้ง Gypsum Foam (ฝ้ายิปซั่มฉนวนโฟม)
- ระบบโครงเคร่าเหล็กฉาบเรียบ:
- ขั้นตอน: ติดตั้งโครงคร่าวฝ้าฉาบเรียบเหล็กชุบสังกะสีตามมาตรฐาน (โครงคร่าวหลัก, โครงคร่าวซอย)
- การยึด: ใช้สกรูยิปซั่มปลายแหลมดำยิงยึดแผ่น Gypsum Foam เข้ากับโครงคร่าวฝ้า ระยะห่างสกรูตามมาตรฐานยิปซั่ม (ประมาณ 20-30 ซม. ขอบแผ่น, 30-40 ซม. กลางแผ่น)
- การเก็บงาน: ฉาบปิดรอยต่อด้วยปูนยิปซั่มร่วมกับผ้าเทปยิปซั่ม ขัดให้เรียบ แล้วทาสีทับ
- ข้อควรระวัง: ควรยกแผ่นด้วยความระมัดระวังเนื่องจากมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากกว่าแผ่นยิปซั่มทั่วไปเล็กน้อย
- ระบบโครงเคร่าทีบาร์:
- ขั้นตอน: ติดตั้งโครงคร่าวฝ้าทีบาร์ตามมาตรฐาน (โครงหลัก, โครงซอย, โครงริม)
- การวาง: นำแผ่น Gypsum Foam ขนาดมาตรฐาน (60×60 ซม. หรือ 60×120 ซม.) ที่มีขอบสำหรับวางบนโครงทีบาร์ วางลงบนโครงคร่าว
- ข้อดี: ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว, หากต้องการซ่อมแซมระบบไฟฟ้า/สุขาภิบาลเหนือฝ้า สามารถยกแผ่นออกได้ง่าย
- ข้อสังเกต: เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่ต้องการความเรียบเนียนแบบฝ้าฉาบเรียบ เช่น ออฟฟิศ, โรงเรียน
3. การติดตั้ง Sandwich Panel (กรณีใช้เป็นฝ้าเพดาน)
- ขั้นตอน:
- ติดตั้งโครงสร้างรองรับที่แข็งแรง (เช่น โครงเหล็ก) สำหรับยึดแผ่น Sandwich Panel
- ยกแผ่น Sandwich Panel ขึ้นติดตั้ง โดยใช้ระบบ Interlock (ลิ้นและร่อง) ที่ขอบแผ่นเพื่อเชื่อมต่อกันให้สนิท
- ยึดแผ่นด้วยสกรูเกลียวปล่อย (Self-tapping Screw) เข้ากับโครงสร้างรองรับ โดยมักมีแหวนยางกันน้ำซึม
- ข้อสังเกต: เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรงสูง, ผิวสำเร็จในตัว (ไม่ต้องทาสีเพิ่ม), และการควบคุมอุณหภูมิที่เข้มงวด เช่น ห้องเย็น, โรงงานอาหาร
การประยุกต์ใช้ EPS Foam ในงานก่อสร้างอื่นๆ (นอกเหนือจากฝ้า)
EPS Foam ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ฝ้าเพดานเท่านั้น แต่ยังมีการนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในส่วนอื่นๆ ของอาคาร:
- ผนัง EPS Panel:
- ระบบผนังสำเร็จรูป: ประกอบด้วยแผ่นโฟม EPS ตรงกลาง และผิวหน้าเป็นวัสดุต่างๆ เช่น ไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด, ไม้อัดซีเมนต์, เมทัลชีท, หรือยิปซั่มบอร์ด สามารถนำไปติดตั้งเป็นผนังบ้านหรืออาคารได้อย่างรวดเร็ว
- ผนังโฟมฉาบปูน: ใช้แผ่นโฟม EPS เป็นไส้กลางสำหรับผนัง แล้วฉาบทับด้วยปูนฉาบ โดยอาจมีตาข่ายไฟเบอร์หรือลวดกรงไก่เสริมแรง เพื่อป้องกันการแตกร้าวของปูนฉาบ
- ข้อดี: น้ำหนักเบา, ติดตั้งเร็ว, กันความร้อน, กันเสียง, ลดโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนัก
- ฉนวนพื้น (Floor Insulation):
- การใช้งาน: วางแผ่นโฟม EPS ใต้พื้นคอนกรีต หรือพื้นชั้นล่างที่ติดดิน
- วัตถุประสงค์:
- กันความร้อน: ป้องกันความร้อนจากดินเข้าสู่ภายในอาคาร
- ลดน้ำหนักโครงสร้าง: แทนที่การถมดินหรือทราย ช่วยลดภาระการรับน้ำหนักของคานและเสา
- ปรับระดับพื้น: ใช้โฟมที่มีความหนาแน่นสูง เพื่อปรับระดับพื้นให้ได้ตามต้องการ
- ลดปัญหาการทรุดตัว: โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ดินอ่อน ช่วยลดปัญหาการทรุดตัวของพื้น
- ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา (Roof Insulation):
- การใช้งาน: วางแผ่นโฟม EPS บนโครงสร้างหลังคา (เช่น แผ่นพื้นคอนกรีต) ก่อนที่จะทำการเทพื้นหลังคา หรือติดตั้งวัสดุมุงหลังคา
- วัตถุประสงค์: ป้องกันความร้อนจากแสงแดดที่ตกกระทบหลังคาโดยตรง ไม่ให้ผ่านเข้าสู่ภายในอาคาร
- งานบรรจุภัณฑ์ (Packaging):
- คุณสมบัติในการป้องกันการกระแทกและน้ำหนักเบา ทำให้ EPS Foam เป็นวัสดุยอดนิยมสำหรับบรรจุภัณฑ์สินค้าที่บอบบาง
- งานประดิษฐ์และตกแต่ง (Crafts & Decoration):
- น้ำหนักเบาและขึ้นรูปง่าย ทำให้ EPS Foam เป็นวัสดุที่นิยมใช้ในการทำฉาก, โมเดล, ป้ายโฆษณา, และงานศิลปะ
การดูแลรักษาและอายุการใช้งาน
- อายุการใช้งาน: หากติดตั้งอย่างถูกวิธีและได้รับการปกป้องจากแสงแดดโดยตรง (เช่น อยู่ภายใต้ฝ้าเพดานหรือผนัง) EPS Foam สามารถมีอายุการใช้งานได้ยาวนานหลายสิบปี โดยไม่เสื่อมสภาพง่ายนัก
- การป้องกันความเสียหาย:
- แสงแดด/รังสียูวี: หลีกเลี่ยงการให้ EPS Foam สัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน เพราะรังสียูวีสามารถทำให้โฟมเสื่อมสภาพและเป็นสีเหลืองได้
- สารเคมี: ระมัดระวังการใช้สารเคมีบางชนิด เช่น ทินเนอร์, น้ำมันเบนซิน, อะซีโตน เพราะอาจทำปฏิกิริยากับ Polystyrene และทำให้โฟมละลายได้
- สัตว์รบกวน: แม้ว่า EPS Foam จะไม่ใช่แหล่งอาหารของปลวก แต่หนูหรือสัตว์ฟันแทะบางชนิดอาจกัดแทะได้ หากมีช่องทางเข้าถึง ควรมีการป้องกันที่ดี
- การทำความสะอาด: สามารถใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดได้ หากเป็นฝ้า Gypsum Foam ก็สามารถทาสีทับได้ตามปกติ
เทคนิคการเลือกซื้อเพิ่มเติม
- สอบถามใบรับรอง: สำหรับโฟม EPS ชนิด F-Grade ควรสอบถามใบรับรองมาตรฐานการไม่ลามไฟ (เช่น ASTM E84, BS 476 Part 7) จากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
- เปรียบเทียบราคาต่อประสิทธิภาพ: ไม่ได้ดูแค่ราคาต่อแผ่น แต่ให้คำนวณราคาต่อหน่วยพื้นที่ (ตร.ม.) และพิจารณาความหนาแน่นและความหนาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในงบประมาณที่กำหนด
- บริการหลังการขาย: เลือกผู้จำหน่ายที่มีบริการให้คำปรึกษาและคำแนะนำในการติดตั้ง
ขอรายละเอียดเพิ่มเติม
ขอใบเสนอราคา